สินเชื่อเป็นทางเลือกที่หลายคนนึกถึงเมื่อต้องการใช้เงินก้อนใหญ่ แต่หลายคนอาจยังไม่เข้าใจว่าสินเชื่อคือ อะไรกันแน่ และสินเชื่อมีประเภทอะไรบ้าง ซึ่งก่อนที่ทุกคนจะไปให้ความสนใจกับสินเชื่อธนาคารไหนอนุมัติง่ายบ้างหรือขอสินเชื่อที่ไหนดี เราควรทำความเข้าใจสินเชื่อและเลือกประเภทให้เหมาะกับความต้องการของตัวเองก่อน โดยเฉพาะการจ่ายดอกเบี้ยในอัตราที่เหมาะสม เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่านั่นเอง ซึ่งสินเชื่อคืออะไร มีอะไรบ้าง เรามาทำความเข้าใจให้มากขึ้นกันดีกว่า

สินเชื่อ (Loan) คืออะไร

สินเชื่อ คือ การที่สถาบันการเงินที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายให้บริการเงินกู้ยืมแก่ผู้ที่ต้องการใช้เงิน โดยมีการจัดทำสัญญาข้อตกลงระหว่างผู้กู้และผู้ให้กู้ ซึ่งกำหนดเงื่อนไข วงเงิน ระยะเวลา และอัตราดอกเบี้ยที่ชัดเจน ผู้กู้มีหน้าที่ต้องชำระคืนทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยตามเงื่อนไขที่ตกลงกัน สินเชื่อมีหลากหลายรูปแบบเพื่อตอบสนองความต้องการทางการเงินที่แตกต่างกัน

ประเภทของสินเชื่อ

สินเชื่อนั้นมีหลายประเภทและสามารถแบ่งได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งตามผู้ขอ ได้แก่ สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อนิติบุคคล และสินเชื่อภาครัฐ หรือแบ่งตามวัตถุประสงค์ เช่น สินเชื่ออเนกประสงค์ สินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถ หรือแม้แต่การแบ่งตามระยะเวลาเป็นสินเชื่อระยะสั้นและระยะยาว แต่โดยทั่วไปแล้วเรามักแบ่งสินเชื่อตามลักษณะของผู้ขอ โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. สินเชื่อส่วนบุคคล หรือ Personal Loan

สินเชื่อส่วนบุคคลเป็นสินเชื่อเพื่อซื้อสินค้าสำหรับการอุปโภคและบริโภคหรือบริการ ตามความต้องการของผู้ขอสินเชื่อ สามารถแยกย่อยออกตามวัตถุประสงค์ของสินเชื่อได้อีก เช่น สินเชื่ออเนกประสงค์ สินเชื่อรถ สินเชื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อเพื่อการศึกษา รวมไปถึงผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดก็จัดเป็นสินเชื่อส่วนบุคคลประเภทหนึ่งเช่นกัน โดยหลักทรัพย์หรือผู้ค้ำประกันในการยื่นขอสินเชื่ออาจมีหรือไม่มีก็ได้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละสถาบันการเงินซึ่งได้รับอนุญาตจากกระทรวงการคลัง และอยู่ภายใต้การดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทยจะเป็นผู้กำหนด ซึ่งสินเชื่อส่วนบุคคลยังสามารถแบ่งแยกย่อยออกได้ ดังนี้

1.1 สินเชื่อส่วนบุคคลแบบไม่มีบัตร

สินเชื่อเงินก้อนอเนกประสงค์ซึ่งผู้ขอสินเชื่อจะต้องยื่นกู้กับทางสถาบันการเงินผู้ให้สินเชื่อโดยตรงและผู้ขอสินเชื่อจะเป็นผู้ระบุจำนวนวงเงินที่ต้องการไว้ในเอกสารตั้งแต่ดำเนินการยื่นขอสินเชื่อ หลังจากผ่านการอนุมัติแล้วเงินก้อนตามจำนวนที่ได้ระบุตามเอกสารตอนยื่นจะถูกโอนเข้าบัญชีของผู้ขอสินเชื่อโดยตรงภายในครั้งเดียว และเจ้าของบัญชีธนาคารที่ได้รับโอนเงินก้อนนั้นก็สามารถนำเงินไปใช้จ่ายได้ทันที

  • การชำระหนี้ของสินเชื่อส่วนบุคคลแบบไม่มีบัตร สินเชื่อส่วนบุคคลแบบไม่มีบัตรจะมีการกำหนดจำนวนเงินค่างวดผ่อนชำระคืนในแต่ละเดือน ซึ่งเงื่อนไขและอัตราดอกเบี้ยในการชำระคืนก็จะแตกต่างกันไปตามแต่ละสถาบันการเงินผู้ให้บริการสินเชื่อกำหนด
  • ดอกเบี้ยของสินเชื่อส่วนบุคคลแบบไม่มีบัตร ดอกเบี้ยจะเป็นรูปแบบของดอกเบี้ยลดต้นลดดอก ยิ่งจ่ายคืนมากยิ่งสามารถลดเงินที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยได้มาก เงื่อนไขการคำนวณดอกเบี้ยและยอดการชำระเงินคืน รวมไปถึงอัตราดอกเบี้ยที่จะได้รับจะขึ้นอยู่กับแต่ละสถาบันการเงินเป็นผู้กำหนดเช่นกัน ซึ่งสินเชื่อที่ไม่มีหลักทรัพย์หรือผู้ค้ำประกันมักจะมีอัตราดอกเบี้ยมากกว่าสินเชื่อที่มีหลักทรัพย์หรือมีผู้ค้ำประกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

1.2 สินเชื่อส่วนบุคคลแบบมีบัตร

สินเชื่อส่วนบุคคลแบบมีบัตรที่เราคุ้นเคยกันดี ได้แก่ บัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด ซึ่งเป็นที่นิยมเพราะความสะดวกในการใช้งาน โดยทั้งสองประเภทมีสิทธิประโยชน์และการใช้งานที่แตกต่างกัน บัตรเครดิตเน้นการใช้จ่ายแทนเงินสดและสะสมคะแนน ในขณะที่บัตรกดเงินสดเน้นการเบิกเงินสดมาใช้และมีความยืดหยุ่นในการชำระคืน ทั้งนี้ ผู้สมัครต้องมีคุณสมบัติตามที่สถาบันการเงินกำหนด เช่น มีรายได้ประจำขั้นต่ำและมีประวัติทางการเงินที่ดี
3 ประเภทสินเชื่อที่ควรรู้จัก

2. สินเชื่อนิติบุคคล

นิติบุคคล คือ บริษัท ห้างหุ้นส่วน สมาคม มูลนิธิ วัด กระทรวง หรือจังหวัด ที่กฎหมายสมมติให้มีเช่นเดียวกับบุคคลธรรมดา สามารถทำนิติกรรมสัญญา มีสิทธิเป็นเจ้าของทรัพย์สินต่าง ๆ โดยสินเชื่อนิติบุคคลคือ สินเชื่อที่บริษัท ห้าง ร้านที่มีสถานะเป็นนิติบุคคลเป็นผู้ขอสินเชื่อเพื่อลงทุนหรือขยายธุรกิจ มีกำหนดระยะเวลาชำระเงินต้นและดอกเบี้ยที่แน่นอน

3. สินเชื่อภาครัฐ

สินเชื่อที่สถาบันทางการเงินปล่อยกู้ให้กับภาครัฐ มักอยู่ในรูปแบบของพันธบัตรชดเชยการขาดดุลงบประมาณ แต่ปัจจุบันไม่ค่อยพบสินเชื่อประเภทนี้แล้ว

สมัครบัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสดดีกว่ากัน

การตัดสินใจระหว่างบัตรเครดิตกับบัตรกดเงินสดเป็นคำถามที่หลายคนสงสัย แต่ละประเภทมีข้อดีและข้อจำกัดแตกต่างกัน การเลือกให้เหมาะกับพฤติกรรมการใช้จ่ายและความจำเป็นของเราจะช่วยให้ได้ประโยชน์สูงสุดและจ่ายดอกเบี้ยน้อยที่สุด ลองมาดูรายละเอียดของแต่ละประเภทเพื่อเปรียบเทียบกัน

บัตรเครดิต

บัตรเครดิตเป็นบัตรสินเชื่อที่ช่วยให้เราใช้จ่ายได้โดยไม่ต้องพกเงินสด เสมือนการนำเงินมาใช้ล่วงหน้าภายในวงเงินที่ได้รับอนุมัติ นอกจากการรูดซื้อสินค้าแล้ว ยังสามารถเบิกเงินสดผ่านตู้ ATM ได้ (แต่อาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม) และใช้ผ่อนชำระสินค้าเป็นงวดตามโปรโมชั่นของร้านค้า โดยการชำระหนี้ของบัตรเครดิตมีทั้งแบบจ่ายขั้นต่ำและจ่ายเต็มจำนวน แต่หากชำระแค่ขั้นต่ำยอดที่เหลือพร้อมดอกเบี้ยจะถูกทบเป็นเงินต้นในเดือนถัดไป ผู้ใช้บัตรเครดิตจึงควรมีวินัยในการใช้จ่ายและชำระหนี้ให้เหมาะกับความสามารถทางการเงิน

บัตรกดเงินสด

บัตรกดเงินสดเป็นอีกรูปแบบของสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถใช้งานได้ 2 ลักษณะ คือ กดเงินสดออกมาใช้และผ่อนชำระสินค้าที่ร้านค้าร่วมรายการ การสมัครบัตรกดเงินสดไม่จำเป็นต้องมีหลักทรัพย์หรือผู้ค้ำประกัน เพียงมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด การชำระหนี้ของบัตรกดเงินสดมีความยืดหยุ่น สามารถเลือกชำระขั้นต่ำหรือเต็มจำนวน โดยดอกเบี้ยคิดแบบลดต้นลดดอกและคำนวณเป็นรายวัน ข้อดีคือหากไม่มีการใช้บัตรหรือเบิกเงิน ก็จะไม่มีภาระหนี้เกิดขึ้น และไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีในการรักษาสถานภาพบัตร จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสำรองไว้ใช้ยามฉุกเฉิน สิทธิประโยชน์ของบัตรกดเงินสดขึ้นอยู่กับแต่ละสถาบันการเงิน โดยทั่วไปมักมีโปรโมชั่นลดดอกเบี้ยในช่วงเวลาที่กำหนด หรือโปรแกรมแบ่งชำระสินค้าเป็นงวด ๆ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้บริหารค่าใช้จ่ายได้ตามความเหมาะสม

สมัครบัตรกดเงินสดยูเมะพลัส

สำหรับผู้ที่สนใจสมัครบัตรกดเงินสดยูเมะพลัสจะต้องมีคุณสมบัติเป็นพนักงานประจำ รายได้เริ่ม 7,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป มีสลิปเงินเดือน และมีอายุงานตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป ก็สามารถสมัครบัตรกดเงินสดยูเมะพลัสได้ โดยเมื่ออนุมัติ ก็เปิดใช้งานบัตรกดเงินสดได้ทันทีผ่าน Umay+ Application ทั้งสามารถเบิกถอนเงินสดได้ในอัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 19.8% ต่อปี พร้อมกดเงินสดในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% นานถึง 30 วัน* หรือสามารถผ่อนสินค้าต่าง ๆ ได้ในอัตราดอกเบี้ย 0% นานสูงสุดถึง 20 เดือน** (ขึ้นอยู่กับโปรโมชันในแต่ละช่วงเวลา) ร่วมกับห้างสรรพสินค้าชั้นนำและร้านค้าที่ร่วมรายการ

การเลือกสินเชื่อที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราบริหารการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสด ต่างก็มีข้อดีที่แตกต่างกัน การเข้าใจคุณลักษณะและเงื่อนไขของแต่ละประเภทจะช่วยให้เราตัดสินใจได้ว่าสินเชื่อแบบไหนที่ตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุด สำหรับใครที่สนใจสมัครบัตรกดเงินสดยูเมะพลัสสามารถสมัครผ่านทางออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

*เพียงมียอดเบิกถอนเงินสดภายใน 30 วันหลังจากได้รับการอนุมัติ (เฉพาะยอดเบิกถอนภายในวันแรก สำหรับลูกค้าใหม่) หลังจบรายการส่งเสริมการขายอัตราดอกเบี้ยจะถูกปรับเป็นอัตราดอกเบี้ย 19.8% - 25% ต่อปี **อัตราดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อผ่อนชำระ 16.44% - 25% ต่อปี, กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว, ดูเงื่อนไขได้ที่เว็บไซต์ยูเมะพลัส