การมีรถมือสองก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่คำถามสำคัญคือเงินเดือนเท่าไหร่ถึงจะสามารถผ่อนรถมือสองได้โดยไม่กระทบสภาพคล่องทางการเงิน บทความนี้เราจะพาไปดูว่าเงินเดือนเท่าไหร่ที่เหมาะสมกับการผ่อนรถ พร้อมพาไปดูวิธีการคำนวณค่าผ่อนรถที่ถูกต้อง เพื่อช่วยให้เราประเมินความสามารถในการผ่อนชำระของตัวเองได้ โดยไม่สร้างภาระหนี้สินเกินตัว
สิ่งที่ควรรู้ก่อนผ่อนรถมือสอง

ก่อนจะตัดสินใจซื้อและยื่นขอสินเชื่อ มีปัจจัยหลายอย่างที่เราควรพิจารณาให้รอบด้าน เพื่อให้การผ่อนรถมือสองเป็นไปอย่างราบรื่นและไม่สร้างปัญหาในระยะยาว การเตรียมความพร้อมตั้งแต่แรกจะช่วยลดความเสี่ยงและทำให้เราเป็นเจ้าของรถได้อย่างสบายใจ โดยสิ่งที่ต้องรู้มีดังนี้
- ความพร้อมทางการเงิน เราควรมีเงินดาวน์อย่างน้อย 10-20% ของราคารถ เพื่อลดภาระยอดจัดสินเชื่อและทำให้ค่างวดต่อเดือนถูกลง นอกจากนี้ ควรมีเงินสำรองสำหรับค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าประกันภัย ค่าโอน และค่าบำรุงรักษาเบื้องต้น
- ประวัติข้อมูลเครดิต (เครดิตบูโร) สถาบันการเงินจะใช้ข้อมูลนี้เพื่อประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของเรา การมีประวัติที่ดี ไม่เคยผิดนัดชำระหนี้ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อและอาจได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ดีกว่า
- อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรถมือสอง โดยทั่วไปแล้วอัตราดอกเบี้ยสำหรับรถมือสองจะสูงกว่ารถใหม่ และมักเป็นอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ (Flat Rate) เราจึงควรเปรียบเทียบข้อเสนอจากหลาย ๆ สถาบันการเงินเพื่อหาเงื่อนไขที่ดีที่สุด
- ค่าใช้จ่ายแฝงในการใช้รถ นอกจากค่างวดแล้วยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ตามมาตลอดการใช้งาน เช่น ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าบำรุงรักษาตามระยะทาง ค่าประกันภัยภาคสมัครใจที่ต้องต่ออายุทุกปี และค่าภาษีรถยนต์ประจำปี
วิธีคำนวณผ่อนรถมือสอง

เพื่อให้เห็นภาพรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดและประเมินค่างวดต่อเดือนได้อย่างแม่นยำ การทราบวิธีคำนวณผ่อนรถมือสองจะช่วยให้เราสามารถวางแผนการเงินล่วงหน้าได้เป็นอย่างดี โดยมีการคำนวณดังนี้
- หาดอกเบี้ยรายปี: ยอดจัดไฟแนนซ์ x อัตราดอกเบี้ย (%)
- หาดอกเบี้ยตลอดอายุสัญญา: ดอกเบี้ยรายปี x จำนวนปีที่ผ่อน
- หายอดจัดไฟแนนซ์รวมดอกเบี้ย: ดอกเบี้ยตลอดอายุสัญญา + ยอดจัดไฟแนนซ์
- หาภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT 7%): ยอดจัดรวมดอกเบี้ย x 7%
- หายอดรวมสินเชื่อทั้งหมด: ยอดจัดรวมดอกเบี้ย + VAT
- หายอดผ่อนต่อเดือน: ยอดรวมสินเชื่อทั้งหมด ÷ จำนวนงวดที่ผ่อน
ตัวอย่างการคำนวณผ่อนรถมือสอง
สมมติว่าเราต้องการขอสินเชื่อรถยนต์มือสองคันหนึ่งราคา 550,000 บาท วางเงินดาวน์ 20% (110,000 บาท) เหลือยอดจัด 440,000 บาท มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ (Flat Rate) 6% ต่อปี ผ่อน 60 งวด (5 ปี) จะสามารถทำการคำนวณได้ดังนี้
- หาดอกเบี้ยรายปี: 440,000 บาท x 6% = 26,400 บาท
- หาดอกเบี้ยตลอดอายุสัญญา: 26,400 บาท x 5 ปี = 132,000 บาท
- หายอดจัดไฟแนนซ์รวมดอกเบี้ย: 132,000 บาท + 440,000 บาท = 572,000 บาท
- หา VAT: 572,000 บาท x 7% = 40,040 บาท • หายอดรวมสินเชื่อ: 572,000 บาท + 40,040 บาท = 612,040 บาท
- หายอดผ่อนต่อเดือน: 612,040 บาท ÷ 60 งวด = 10,201 บาท
ตารางผ่อนรถมือสองเทียบกับเงินเดือน
เพื่อให้เห็นภาพความสัมพันธ์ระหว่างราคารถและรายได้ที่เหมาะสมได้ง่ายขึ้น เราได้จัดทำตารางผ่อนรถมือสองเบื้องต้นเพื่อใช้เป็นแนวทางในการพิจารณาความสามารถในการผ่อนชำระ ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถเลือกรถในราคาที่สอดคล้องกับรายได้ของตัวเองได้
| ราคารถมือสอง | ผ่อนต่อเดือน (บาท) | รายได้ต่อเดือนที่แนะนำ (บาท) |
| 600,000 | 9,300 | 25,000 - 30,000 |
| 800,000 | 12,400 | 35,000 - 45,000 |
| 1,000,000 | 15,500 | 50,000 - 65,000 |
| 1,500,000 | 23,200 | 70,000 - 75,000 |
| 1,800,000 | 27,000 | 80,000 |
*ตารางนี้เป็นการคำนวณค่างวดรถเบื้องต้น โดยหักเงินดาวน์ 10% อัตราดอกเบี้ยประมาณ 5%-8% (ขึ้นอยู่กับรุ่นรถ) ระยะเวลาในการผ่อน 84 เดือน (7 ปี) ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว
การผ่อนรถมือสองไม่ใช่เรื่องไกลตัวหากเรามีการวางแผนทางการเงินที่ดี รู้จักประเมินรายรับรายจ่าย และคำนวณภาระหนี้สินอย่างรอบคอบ โดยค่างวดไม่ควรเกิน 15-20% ของรายได้ต่อเดือน เพื่อให้ยังมีเงินเหลือสำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็นอื่น ๆ และสำหรับค่าใช้จ่ายฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการใช้รถ เช่น ค่าซ่อมบำรุง การมีวงเงินสำรองอย่างบัตรกดเงินไว้เป็นตัวช่วย จะช่วยเพิ่มความอุ่นใจและเสริมสภาพคล่องทางการเงินให้เราผ่านไปได้ทุกสถานการณ์ สำหรับใครที่สนใจสมัครบัตรกดเงินสดยูเมะพลัสก็สามารถสมัครผ่านทางออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
*อัตราดอกเบี้ย 19.8% - 25% ต่อปี, กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว, ดูเงื่อนไขได้ที่เว็บไซต์ยูเมะพลัส
27/12/2025