
การมองหาโอกาสใหม่ ๆ ในการทำงานต่างแดนเป็นความฝันของใครหลายคน โดยเฉพาะการได้ไปทำงานในประเทศที่ให้ผลตอบแทนสูงและมีคุณภาพชีวิตที่ดีเยี่ยม บทความนี้จะพาทุกคนไปสำรวจ 10 ประเทศที่น่าไปทำงานมากที่สุดในปี 2025 ซึ่งไม่เพียงแต่มีชื่อเสียงด้านรายได้ที่น่าดึงดูดใจ แต่ยังมอบสวัสดิการและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโตทั้งในสายอาชีพและชีวิตส่วนตัว เตรียมตัวให้พร้อม แล้วเราไปดูกันว่ามีประเทศไหนบ้างที่น่าสนใจ
ประเทศที่น่าไปทำงานมากที่สุดเป็นอย่างไร
การเลือกประเทศที่น่าไปทำงานมากที่สุดนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยใดปัจจัยหนึ่ง แต่ควรพิจารณาหลาย ๆ ปัจจัยไม่ว่าจะเป็นโอกาสทางอาชีพ สภาพแวดล้อมทางสังคม และความมั่นคงในชีวิต การพิจารณาอย่างรอบด้านจะช่วยให้เราตัดสินใจเลือกเส้นทางที่เหมาะสมกับเป้าหมายและไลฟ์สไตล์ของเรามากที่สุด
ค่าตอบแทนสูง
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประเทศนั้น ๆ น่าสนใจคือเรื่องของผลตอบแทนที่คุ้มค่า ประเทศที่ให้ค่าแรงสูงมักจะดึงดูดผู้มีความสามารถจากทั่วโลก การมีรายได้ที่ดีไม่เพียงแต่ช่วยให้เรามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่ยังสามารถสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว และเปิดโอกาสให้เราได้ลงทุนหรือเก็บออมเพื่ออนาคต การได้รับค่าตอบแทนที่สมเหตุสมผลกับทักษะและประสบการณ์จึงเป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้เมื่อตัดสินใจไปทำงานต่างประเทศ
ค่าครองชีพต่ำ
แม้ว่าหลายประเทศที่มีค่าตอบแทนสูงอาจมีค่าครองชีพที่สูงตามไปด้วย แต่ก็ยังมีบางประเทศที่สามารถสร้างสมดุลระหว่างรายได้และรายจ่ายได้อย่างลงตัว การเลือกประเทศที่มีค่าครองชีพไม่สูงเกินไปเมื่อเทียบกับรายได้ จะช่วยให้เรามีเงินเหลือเก็บมากขึ้น สามารถใช้จ่ายเพื่อความสุขส่วนตัว หรือส่งกลับไปดูแลครอบครัวได้ การพิจารณาปัจจัยนี้จะช่วยให้การหางานต่างประเทศของเรานำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น
สวัสดิการดี
สวัสดิการที่ดีเป็นอีกหนึ่งเครื่องการันตีคุณภาพชีวิต ประเทศที่น่าสนใจมักจะมีระบบสาธารณสุขที่เข้าถึงง่ายและมีประสิทธิภาพ การศึกษาที่มีคุณภาพ รวมถึงสวัสดิการสังคมอื่น ๆ เช่น การลาพักร้อนที่เพียงพอ การดูแลบุตร และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้เราทำงานได้อย่างสบายใจไร้กังวล แต่ยังส่งเสริมให้เรามีสุขภาพกายและใจที่ดี พร้อมที่จะสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างเต็มศักยภาพ
10 ประเทศที่น่าไปทำงานมากที่สุดในปี 2025
เมื่อเราทราบถึงปัจจัยสำคัญแล้วก็ถึงเวลามาดูกันว่า 10 ประเทศใดบ้างที่โดดเด่นและเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการไปทำงานในปี 2025
1. แคนาดา
แคนาดาเป็นที่รู้จักในด้านคุณภาพชีวิตที่สูง มีนโยบายเปิดรับผู้ย้ายถิ่นฐานทักษะสูง และมีเมืองน่าอยู่มากมาย นอกจากนี้ ยังมีธรรมชาติที่สวยงาม ค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่ประมาณ 17.75 ดอลลาร์แคนาดาต่อชั่วโมง (อาจแตกต่างกันไปในแต่ละรัฐ) ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับการหางานต่างประเทศของคนทั่วโลก รวมถึงคนไทยที่มองหาโอกาสใหม่ ๆ และสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นมิตรและหลากหลายทางวัฒนธรรม
2. เยอรมนี
เยอรมนีเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจแข็งแกร่งที่สุดในยุโรป มีความต้องการแรงงานทักษะสูงในหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะวิศวกรรมและเทคโนโลยี มีระบบสวัสดิการที่ดีเยี่ยม และให้ความสำคัญกับความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว ค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่ประมาณ 12.82 ยูโรต่อชั่วโมง ซึ่งช่วยให้มั่นใจได้ถึงรายได้ที่เหมาะสมในการดำรงชีพ พร้อมโอกาสในการพัฒนาอาชีพที่กว้างขวางในสภาพแวดล้อมที่มีมาตรฐานสูง
3. ออสเตรเลีย
ออสเตรเลียขึ้นชื่อเรื่องสภาพอากาศที่ดี เมืองที่มีชีวิตชีวา และวัฒนธรรมที่เป็นมิตร เป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าไปทำงานมากที่สุดด้วยตลาดงานที่เปิดกว้างสำหรับชาวต่างชาติ โดยเฉพาะในสาขาการแพทย์ การศึกษา และเทคโนโลยีสารสนเทศ ค่าแรงขั้นต่ำของออสเตรเลียค่อนข้างสูง อยู่ที่ประมาณ 24.10 ดอลลาร์ออสเตรเลียต่อชั่วโมง ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีโอกาสในการออมเงินสูง
4. สวิตเซอร์แลนด์
สวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศที่มีชื่อเสียงด้านคุณภาพชีวิตที่สูงมาก มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจและการเมือง และเป็นที่ตั้งขององค์กรระหว่างประเทศหลายแห่ง แม้ค่าครองชีพจะสูง แต่ค่าตอบแทนก็สูงตามไปด้วย โดยมีค่าแรงขั้นต่ำ (ในบางรัฐเช่นเจนีวา) อยู่ที่ประมาณ 23 ฟรังก์สวิสต่อชั่วโมง ประเทศนี้โดดเด่นในอุตสาหกรรมการเงิน ยา และเทคโนโลยีขั้นสูง มอบโอกาสสำหรับผู้ที่มองหาความเป็นเลิศในอาชีพ
5. สิงคโปร์

สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางทางการเงินและธุรกิจที่สำคัญในเอเชีย มีสภาพแวดล้อมที่ทันสมัยและปลอดภัย แม้จะไม่มีการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นมาตรฐานกลางของประเทศ แต่รายได้ในสาขาอาชีพต่าง ๆ ก็อยู่ในระดับสูง เช่น ในปี 2567 พนักงานภาครัฐบางตำแหน่งมีเงินเดือนเริ่มต้นที่ 1,500-2,800 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือพนักงานทำความสะอาดมีรายได้ขั้นต่ำประมาณ 1,570-2,410 ดอลลาร์สิงคโปร์
6. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยเฉพาะเมืองอย่างดูไบและอาบูดาบี เป็นที่รู้จักในด้านสถาปัตยกรรมที่ล้ำสมัย ความหรูหรา และโอกาสทางธุรกิจที่หลากหลาย มีความต้องการแรงงานในภาคบริการ การท่องเที่ยว การเงิน และการก่อสร้าง อัตราค่าจ้างโดยทั่วไปสำหรับแรงงานทักษะอาจอยู่ที่ประมาณ 18-20 เดอร์แฮมสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ต่อชั่วโมง หรือสูงกว่านั้นขึ้นอยู่กับประเภทงานและประสบการณ์ ทำให้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการรายได้ปลอดภาษี
7. นิวซีแลนด์
นิวซีแลนด์มอบประสบการณ์การทำงานที่ไม่เหมือนใครด้วยธรรมชาติอันน่าทึ่งและวัฒนธรรมที่ผ่อนคลาย ให้ความสำคัญกับความสมดุลในชีวิตการทำงาน มีโอกาสในอุตสาหกรรมการเกษตร การท่องเที่ยว และเทคโนโลยี ค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่ประมาณ 23.50 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ต่อชั่วโมง เป็นประเทศที่เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาคุณภาพชีวิตที่ดีท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่สวยงามและผู้คนที่เป็นมิตร พร้อมโอกาสในการเติบโต
8. เนเธอร์แลนด์
เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศที่มีนวัตกรรมสูง มีความเป็นสากล และผู้คนส่วนใหญ่ใช้ภาษาอังกฤษได้ดี มีความต้องการบุคลากรในสาขาเทคโนโลยี วิศวกรรม และโลจิสติกส์ รัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนชาวต่างชาติทักษะสูง อัตราค่าแรงขั้นต่ำสำหรับผู้ที่มีอายุ 21 ปีขึ้นไปอยู่ที่ประมาณ 15.06 ยูโรต่อชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับอายุและอาจมีการเปลี่ยนแปลง) ทำให้เป็นประเทศที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการพัฒนาอาชีพในยุโรป
9. ญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่โดดเด่นและเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า มีโอกาสในอุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และบริการ แม้จะมีเรื่องกำแพงภาษาอยู่บ้าง แต่ก็มีโครงการสนับสนุนให้ชาวต่างชาติไปทำงานต่างประเทศที่ญี่ปุ่นมากขึ้น ค่าแรงขั้นต่ำโดยเฉลี่ยทั่วประเทศอยู่ที่ประมาณ 1,004 เยนต่อชั่วโมง (แตกต่างกันไปในแต่ละจังหวัด) การทำงานที่ญี่ปุ่นมอบประสบการณ์ที่น่าจดจำและทักษะที่มีค่า
10. เดนมาร์ก
เดนมาร์กได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลกอย่างสม่ำเสมอ มีระบบสวัสดิการที่ยอดเยี่ยม ให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมและวัฒนธรรมการทำงานที่ยืดหยุ่น แม้จะไม่มีกฎหมายค่าแรงขั้นต่ำที่กำหนดโดยรัฐบาล แต่สหภาพแรงงานมีบทบาทสำคัญในการกำหนดอัตราค่าจ้าง ซึ่งโดยทั่วไปอาจอยู่ที่ประมาณ 110 โครนเดนมาร์ก (DKK) ต่อชั่วโมงหรือสูงกว่านั้น เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาคุณภาพชีวิตและความสุขในการทำงาน
การเลือกประเทศที่น่าไปทำงานมากที่สุดในปี 2025 ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ทั้ง 10 ประเทศที่กล่าวมานี้ล้วนมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ทั้งในเรื่องรายได้ สวัสดิการ และวัฒนธรรมการทำงาน การเตรียมตัวให้พร้อมทั้งด้านทักษะ ภาษา และข้อมูล จะช่วยให้การหางานต่างประเทศเป็นไปอย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จได้ แต่สำหรับใครที่ทำงานในประเทศไทยตอนนี้เกิดกำลังขาดสภาพคล่องทางการเงิน บัตรกดเงินสดเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจในการจัดการทางการเงิน สามารถสมัครบัตรกดเงินสดยูเมะพลัส สั่งเงินโอนเข้าบัญชีได้ตลอด 24 ชั่วโมงที่ Umay+ Application
*อัตราดอกเบี้ย 19.8% - 25% ต่อปี, กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว, ดูเงื่อนไขได้ที่เว็บไซต์ยูเมะพลัส