แน่นอนว่าทุกคนต้องการมีชีวิตหลังวัยเกษียณอย่างมีความสุข สามารถใช้ชีวิตและใช้จ่ายได้โดยไม่ต้องกังวลถึงเรื่องเงิน การเริ่มวางแผนทางการเงินตั้งแต่วัยทำงานจึงเป็นสิ่งจำเป็น โดยหนึ่งในทางเลือกที่ได้รับความนิยมสูงสุดนั่นคือการออมเงินผ่านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพนั่นเอง โดยที่บางบริษัทจะมีสวัสดิการนี้ให้แก่พนักงาน ซึ่งในบทความนี้เราจะพาไปทำความรู้จักและเรียนรู้เพิ่มเติมว่ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ คืออะไร และสำคัญอย่างไรบ้างกัน
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพคืออะไร?
‘กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ’ หรือบางคนอาจรู้จักกันในชื่อ ‘Provident Fund’ คือ กองทุนที่จัดตั้งขึ้นโดยนายจ้างเพื่อสะสมเงินให้กับพนักงาน เพื่อใช้เป็นรายได้หลังพ้นสภาพการเป็นลูกจ้างหรือเกษียณอายุ ซึ่งเงินออมจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจะถูกนำไปลงทุนในหลักทรัพย์ต่าง ๆ เช่น พันธบัตร หุ้น กองทุนรวม เป็นต้น เพื่อสร้างผลตอบแทนและรายได้ในระยะยาว โดยผลตอบแทนที่ได้จะถูกนำกลับมารวมเป็นเงินออมในกองทุนด้วย
วิธีการออมเงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
สำหรับขั้นตอนการออมเงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพนั้นมีความเรียบง่ายและเป็นระบบ โดยเงินออมจะมาจาก 2 แหล่งหลัก คือส่วนที่เราในฐานะลูกจ้างเป็นผู้สะสม และอีกส่วนสำคัญที่มาจากนายจ้างเป็นผู้สมทบเข้ามาให้ ซึ่งทั้งสองส่วนนี้จะทำงานร่วมกันเพื่อสร้างเงินก้อนให้งอกเงยสำหรับอนาคตของเรา ดังนี้
- ลูกจ้างจะถูกหักเงินประมาณ 2-15% ของเงินเดือนทุกเดือน เพื่อนำมาออมเข้ากองทุน
- เงินสมทบจากนายจ้างเข้ากองทุนให้พนักงาน โดยมักจะสมทบในอัตราเท่ากับหรือสูงกว่าส่วนที่พนักงานออม
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพมีประโยชน์กับใคร?
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพนับเป็นสวัสดิการที่ให้ประโยชน์แก่ทั้งพนักงานและนายจ้าง โดยสำหรับพนักงานกองทุนเป็นแหล่งสร้างหลักประกันทางการเงินสำหรับใช้หลังเกษียณอายุ โดยเงินออมจะถูกนำไปลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทน พนักงานยังได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากการออม และได้รับเงินสมทบจากนายจ้างด้วย ส่วนนายจ้าง การจัดตั้งกองทุนช่วยสร้างขวัญกำลังใจและรักษาพนักงานไว้กับองค์กร นอกจากนี้ ยังได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากเงินสมทบ ถือเป็นสวัสดิการที่มีประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย จึงเป็นที่นิยมนำมาใช้ในหลายองค์กร
ข้อดีของการออมเงินกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
จริง ๆ แล้วการออมเงินประเภทนี้มีข้อดีหลายอย่าง รวมถึงยังมีหลายเหตุผลให้ชวนคิดสำหรับการออมเงินกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพถ้าบริษัทมีให้
- เงินสมทบจากนายจ้าง – ทำให้มีเงินออมมากขึ้นกว่าการออมเองทั้งหมด นับเป็นสวัสดิการที่ดีจากนายจ้าง
- ภาระภาษีจ่ายน้อยลง – เนื่องจากเงินออมที่พนักงานจ่ายสะสมเข้ากองทุน สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้ตามกฎหมาย
- ผลตอบแทนจากการลงทุน – กองทุนจะนำเงินออมไปลงทุนในหลักทรัพย์ต่าง ๆ เช่น พันธบัตร หุ้น กองทุนรวม ซึ่งมีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูงกว่าการฝากเงิน
- วางแผนการเงินระยะยาวอย่างเป็นระบบ – หักเงินเดือนทุกเดือนอย่างเป็นประจำ เพื่อมาเป็นออมเข้ากองทุน
- เงินออมสำรองสำหรับเกษียณอายุ – ไม่ต้องเป็นภาระกับผู้อื่น สามารถใช้ชีวิตในวัยสูงอายุได้อย่างสุขสบาย
จะได้รับเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเมื่อไหร่
โดยทั่วไป เราจะได้รับเงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพคืนเมื่อสิ้นสุดสภาพการเป็นพนักงาน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม เช่น เกษียณอายุ ลาออก หรือเลิกจ้าง ซึ่งประเด็นเรื่องกองทุนสำรองเลี้ยงชีพลาออกได้เท่าไหร่นั้น จะขึ้นอยู่กับยอดเงินสะสมทั้งหมดของเรา บวกกับเงินสมทบจากนายจ้างและผลประโยชน์จากการลงทุนที่เกิดขึ้นตลอดอายุสมาชิกภาพ ทั้งนี้ เงื่อนไขการจ่ายเงินสมทบของนายจ้างอาจขึ้นอยู่กับอายุงานตามที่ระบุไว้ในข้อบังคับกองทุน
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ จ่ายทุกเดือนแล้วเงินไปอยู่ไหน?
เมื่อเราส่งเงินสะสมเข้ากองทุนทุกเดือน เงินเหล่านี้จะไม่ได้อยู่นิ่ง แต่จะถูกส่งต่อไปให้ 'บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน' (บลจ.) ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญ นำเงินไปบริหารจัดการตามนโยบายการลงทุนที่เราเลือกไว้ เช่น ตราสารหนี้ หรือหุ้น เพื่อสร้างผลตอบแทนงอกเงย จากนั้นผลประโยชน์ที่ได้จะถูกจัดสรรกลับคืนสู่สมาชิกกองทุนทุกคนตามสัดส่วนเงินลงทุน ทำให้เงินออมของเราเติบโตขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ
เงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ออกจากงานกี่วันได้
โดยทั่วไปแล้วเมื่อสถานะสมาชิกภาพของเราสิ้นสุดลง บริษัทจัดการกองทุนมีหน้าที่จ่ายเงินคืนให้เราภายใน 30 วัน อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติมักจะใช้เวลาไม่นานหลังจากที่นายจ้างนำส่งเงินสะสมงวดสุดท้ายและแจ้งเอกสารการลาออกอย่างเป็นทางการครบถ้วนแล้ว กระบวนการตรวจสอบและอนุมัติการจ่ายเงินก็จะเริ่มขึ้นทันที เพื่อให้เราได้รับเงินก้อนนี้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กี่ปีได้ส่วนของนายจ้าง
นายจ้างจะเริ่มสมทบเงินให้ตั้งแต่เดือนแรก แต่เงื่อนไขการรับเงินส่วนนี้จะขึ้นอยู่กับอายุงานตามที่ระบุในข้อบังคับกองทุน หลายคนจึงสงสัยว่ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพนายจ้างสมทบเท่าไหร่และจะได้เมื่อไหร่ ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นแบบขั้นบันได เช่น ทำงานครบ 3 ปี อาจได้รับ 50% และจะได้รับเต็ม 100% เมื่อทำงานครบ 5 ปีขึ้นไป ทั้งนี้เพื่อเป็นแรงจูงใจให้พนักงานทำงานกับองค์กรในระยะยาว
จากที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นได้ว่ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพนั้นเป็นสวัสดิการที่มีประโยชน์เป็นอย่างมากทั้งต่อลูกจ้างและนายจ้าง หากบริษัทไหนมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้กับพนักงาน ก็ถือเป็นตัวเลือกและโอกาสทางการเงินที่ดีที่ไม่ควรพลาดเลย เพราะการวางแผนทางการเงินสำหรับวัยเกษียณเป็นเรื่องสำคัญที่ควรให้ความใส่ใจตั้งแต่วัยทำงาน กองทุนสำรองเลี้ยงชีพจึงเป็นตัวช่วยที่ดีในการวางรากฐานความมั่นคงทางการเงินในอนาคต
นอกจากการวางแผนทางการเงินสำหรับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแล้ว คุณยังสามารถเพิ่มความมั่นคงทางการเงินด้วยบัตรกดเงินสดสดยูเมะพลัส อีกหนึ่งตัวช่วย ให้คุณจัดสรรและวางแผนการเงินได้อย่างมีคุณภาพ เพื่อให้คุณอุ่นใจได้ทุกช่วงเวลาเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน สำหรับใครที่สนใจสมัครบัตรกดเงินสดยูเมะพลัส สามารถสมัครได้ผ่านทางออนไลน์ที่ > https://www.umayplus.com/cashcard/applyform ตลอด 24 ชั่วโมง
*อัตราดอกเบี้ย 19.8% - 25% ต่อปี, กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว, ดูเงื่อนไขได้ที่เว็บไซต์ยูเมะพลัส
29/10/2025