ปัจจุบันการยืนยันตัวตน eKYC กลายเป็นขั้นตอนสำคัญก่อนใช้บริการทางการเงินออนไลน์ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกในการทำธุรกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดบัญชี สมัครสินเชื่อ หรือทำธุรกรรมทางการเงินอื่น ๆ เรามาทำความเข้าใจระบบยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ที่กำลังเปลี่ยนแปลงวงการการเงินให้ง่ายขึ้นกัน

ระบบยืนยันตัวตน eKYC คืออะไร

Electronic Know Your Customer หรือ eKYC คือ เทคโนโลยีดิจิทัลที่ใช้ในการตรวจสอบและพิสูจน์ตัวตนของผู้ใช้บริการผ่านช่องทางออนไลน์ แทนการเดินทางไปยืนยันตัวตนที่สาขาหรือสำนักงาน ซึ่งเป็นกระบวนการที่ช่วยให้สถาบันการเงินสามารถตรวจสอบข้อมูลของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ รวดเร็ว และมีความปลอดภัยสูง ผ่านการใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้า (Facial Recognition) ร่วมกับการตรวจสอบเอกสารสำคัญอย่างบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ต เพื่อยืนยันว่าผู้ใช้บริการเป็นเจ้าของข้อมูลตัวจริง

ข้อดีของการยืนยันตัวตนผ่าน eKYC
ข้อดีของการยืนยันตัวตนผ่าน eKYC

การยืนยันตัวตนด้วยระบบ eKYC มีข้อดีมากมายทั้งสำหรับผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ ไม่เพียงแต่ช่วยลดขั้นตอนที่ยุ่งยากในการพิสูจน์ตัวตน แต่ยังเพิ่มความปลอดภัยในการทำธุรกรรมออนไลน์ ทำให้การใช้บริการทางการเงินเป็นเรื่องง่ายที่ทำได้ทุกที่ทุกเวลา

ความสะดวกรวดเร็วในการทำธุรกรรม

การยืนยันตัวตน eKYC ช่วยให้เราสามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ทุกที่ทุกเวลา โดยไม่ต้องเดินทางไปที่สาขาหรือสำนักงาน ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง eKYC ขั้นตอนในการใช้งานออนไลน์ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที แตกต่างจากระบบเดิมที่อาจใช้เวลาหลายชั่วโมงหรือหลายวัน ทำให้เราสามารถเริ่มใช้บริการได้รวดเร็วขึ้น เช่น การสมัครบัตรกดเงินสดที่เมื่อได้รับการอนุมัติจะใช้งานได้ทันที โดยไม่ต้องรอรับเอกสารหรือบัตรทางไปรษณีย์

ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

ระบบยืนยันตัวตน eKYC มีกระบวนการตรวจสอบที่รัดกุมมากกว่าการยืนยันตัวตนแบบดั้งเดิม ด้วยเทคโนโลยีการจดจำใบหน้า ตรวจจับการเคลื่อนไหว และการเปรียบเทียบข้อมูลกับฐานข้อมูลทางราชการ ทำให้ยากต่อการปลอมแปลงตัวตน ข้อมูลที่ส่งผ่านระบบ eKYC จะถูกเข้ารหัสด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับสูง ป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล และทำให้การทำธุรกรรมออนไลน์มีความปลอดภัยมากขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกแอบอ้างตัวตนหรือการฉ้อโกง

ลดขั้นตอนการใช้เอกสาร

การยืนยันตัวตนผ่าน eKYC ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ช่วยลดการใช้เอกสารกระดาษจำนวนมาก เพียงมีบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ต และโทรศัพท์มือถือที่มีกล้อง ก็สามารถยืนยันตัวตนได้ ไม่ต้องถ่ายเอกสารหลายชุด จัดเรียงเอกสาร หรือรับรองสำเนาเหมือนในอดีต ระบบจะจัดเก็บข้อมูลดิจิทัลไว้อย่างเป็นระบบ ทำให้ผู้ให้บริการสามารถเรียกดูและตรวจสอบข้อมูลได้ทันที ไม่ต้องค้นหาเอกสารในแฟ้ม ช่วยประหยัดพื้นที่จัดเก็บและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

รูปแบบการยืนยันตัวตน e-KYC

ขั้นตอน eKYC มีรูปแบบและวิธีการที่หลากหลาย แต่โดยทั่วไปจะประกอบด้วยองค์ประกอบหลักที่ช่วยให้การยืนยันตัวตนมีความน่าเชื่อถือและปลอดภัย ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบเอกสาร การพิสูจน์ตัวตนด้วยใบหน้า และการยืนยันข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งหมดนี้เป็นขั้นตอนที่ช่วยให้มั่นใจว่าผู้ใช้บริการเป็นบุคคลที่มีตัวตนจริงและเป็นเจ้าของข้อมูลที่นำมาใช้

การถ่ายรูปบัตรประชาชน

การยืนยันตัวตน eKYC ขั้นตอนแรกเป็นการถ่ายภาพเอกสารแสดงตัวตน โดยส่วนใหญ่จะเป็นบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ต ระบบจะใช้เทคโนโลยี OCR (Optical Character Recognition) อ่านข้อมูลจากบัตรโดยอัตโนมัติ และตรวจสอบความถูกต้องของบัตร เช่น รูปแบบเลขบัตร วันหมดอายุ และข้อมูลอื่น ๆ ระบบยังสามารถตรวจจับสัญญาณการปลอมแปลงบัตร เช่น การตัดต่อภาพ หรือการใช้ภาพถ่ายจากเอกสาร นอกจากนี้ ยังมีการตรวจสอบข้อมูลกับฐานข้อมูลราชการเพื่อยืนยันว่าบัตรนั้นเป็นบัตรที่ออกโดยหน่วยงานราชการจริง

การถ่ายภาพใบหน้า

หลังจากตรวจสอบเอกสารแล้ว eKYC ขั้นตอนต่อไปคือการถ่ายภาพใบหน้าแบบเรียลไทม์ เพื่อเปรียบเทียบกับรูปในบัตรประชาชน ระบบจะใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้า (Facial Recognition) วิเคราะห์ความเหมือนระหว่างใบหน้าจริงกับรูปในเอกสาร ระบบมักมีการทดสอบการมีชีวิต (Liveness Detection) เช่น การให้กะพริบตา ยิ้ม หรือหันหน้าซ้าย-ขวา เพื่อป้องกันการใช้ภาพถ่ายหรือวิดีโอปลอม ขั้นตอนนี้ช่วยยืนยันว่าผู้ที่กำลังทำธุรกรรมเป็นเจ้าของเอกสารตัวจริง ไม่ใช่การแอบอ้างโดยบุคคลอื่น

การยืนยันข้อมูลส่วนบุคคล

การยืนยันตัวตน eKYC ขั้นตอนสุดท้ายจะเป็นการยืนยันข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติม ซึ่งอาจรวมถึงการยืนยันเบอร์โทรศัพท์ผ่าน OTP (One-Time Password) หรือการยืนยันข้อมูลอื่น ๆ เช่น อีเมล ที่อยู่ หรือข้อมูลทางการเงิน ระบบอาจมีการเชื่อมโยงกับ NDID (National Digital ID) เพื่อตรวจสอบตัวตนผ่านแพลตฟอร์มกลางที่เชื่อมต่อกับหน่วยงานราชการและธนาคาร การยืนยันตัวตนด้วยวิธีนี้ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยให้กับกระบวนการ eKYC ทำให้การทำธุรกรรมออนไลน์มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
บัตรกดเงินสดยูเมะพลัส

การยืนยันตัวตน eKYC เป็นก้าวสำคัญของการทำธุรกรรมทางการเงินในยุคดิจิทัล ช่วยให้การใช้บริการทางการเงินเป็นเรื่องง่าย สะดวก และปลอดภัยมากขึ้น บัตรกดเงินสดยูเมะพลัสได้นำการยืนยันตัวตนรูปแบบดิจิทัล (NDID) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มกลางของประเทศที่เชื่อมโยงทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชนเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน เข้ามาใช้เพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าในการสมัครบัตรผ่านช่องทางออนไลน์ โดยระบบจะดึงข้อมูลที่เราเคยลงทะเบียนจากสถาบันการเงินต่าง ๆ ผ่านความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลเพื่อยืนยันตัวตน ทำให้การสมัครบัตรกดเงินสดยูเมะพลัสมีความสะดวกมากขึ้น สำหรับใครที่สนใจสมัครบัตรกดเงินสดยูเมะพลัส สามารถสมัครผ่านทางออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

*อัตราดอกเบี้ย 19.8% - 25% ต่อปี, กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว, ดูเงื่อนไขได้ที่เว็บไซต์ยูเมะพลัส