ญี่ปุ่นคือสถานที่ท่องเที่ยวในฝันของนักเดินทางชาวไทยหลายคน ด้วยวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ อาหารเลิศรส และสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม แต่ก่อนจะเก็บกระเป๋าไปเที่ยวนั้น สิ่งแรกที่หลายคนสงสัยคือไปญี่ปุ่นต้องขอวีซ่าไหม และต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง บทความนี้ได้รวบรวมทุกคำตอบที่จำเป็นสำหรับการเดินทางไปญี่ปุ่น ทั้งเรื่องเอกสารสำคัญ การเตรียมตัว และข้อควรรู้ เพื่อให้ทริปของเราสมบูรณ์แบบและราบรื่นที่สุด
ไปญี่ปุ่นต้องขอวีซ่าไหม
สำหรับคำถามที่ว่าคนไทยไปญี่ปุ่นต้องขอวีซ่าไหมหากเราถือหนังสือเดินทางไทย (E-passport) เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการท่องเที่ยว สามารถเดินทางเข้าและพำนักในประเทศญี่ปุ่นได้ไม่เกิน 15 วัน โดยไม่จำเป็นต้องยื่นขอวีซ่าล่วงหน้า แต่หากมีแผนการเดินทางที่นานเกิน 15 วัน หรือมีจุดประสงค์อื่น เช่น เรียนต่อ ทำงาน หรือเยี่ยมญาติ กรณีนี้จำเป็นต้องทำการขอวีซ่าญี่ปุ่นให้ถูกต้องตามประเภทก่อนออกเดินทาง เพื่อให้เข้าประเทศได้อย่างไม่มีปัญหา
ประเภทวีซ่าญี่ปุ่น

การเดินทางเข้าญี่ปุ่นเกินกว่า 15 วัน หรือไปเพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกจากการท่องเที่ยวระยะสั้น จำเป็นต้องยื่นขอวีซ่าให้ตรงตามเป้าหมายของการเดินทาง ซึ่งวีซ่าแต่ละประเภทก็มีข้อกำหนดและเอกสารที่ใช้แตกต่างกันออกไป เราจึงควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนดำเนินการ
วีซ่าท่องเที่ยว
สำหรับผู้ที่ต้องการพำนักในญี่ปุ่นเพื่อการท่องเที่ยวนานเกิน 15 วัน แต่ไม่เกิน 90 วัน จะต้องยื่นขอวีซ่าประเภทนี้ โดยต้องแสดงแผนการเดินทางอย่างละเอียด เอกสารการจองที่พักและตั๋วเครื่องบิน รวมถึงเอกสารทางการเงินเพื่อแสดงให้เห็นว่าเราสามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายตลอดทริปได้ การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการยื่นขอวีซ่าญี่ปุ่นประเภทท่องเที่ยว
วีซ่าเยี่ยมญาติหรือเพื่อน
กรณีที่เราต้องการเดินทางไปเยี่ยมญาติ แฟน หรือเพื่อนที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นอย่างถูกกฎหมาย จะต้องขอวีซ่าประเภทนี้ โดยเอกสารสำคัญคือจดหมายเชิญจากผู้ที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่น ซึ่งต้องระบุความสัมพันธ์และวัตถุประสงค์การเดินทางอย่างชัดเจน รวมถึงเอกสารยืนยันสถานะของผู้อาศัยในญี่ปุ่น เช่น สำเนาหนังสือเดินทาง หรือใบอนุญาตพำนักอาศัย เพื่อประกอบการพิจารณา
วีซ่านักเรียน
สำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาต่อในสถาบันการศึกษาของประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนสอนภาษา วิทยาลัย หรือมหาวิทยาลัย จะต้องยื่นขอวีซ่านักเรียน โดยมีเอกสารสำคัญคือ “Certificate of Eligibility” (COE) หรือใบรับรองสถานภาพการพำนัก ที่ออกโดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของญี่ปุ่น ซึ่งทางสถาบันการศึกษาจะเป็นผู้ดำเนินการขอให้หลังจากเราตอบรับเข้าเรียนเรียบร้อยแล้ว
วีซ่าทำงาน
การเดินทางไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น จำเป็นต้องมีนายจ้างหรือบริษัทที่ญี่ปุ่นเป็นผู้รับรองและดำเนินเรื่องขอใบรับรองสถานภาพการพำนัก หรือ “Certificate of Eligibility” (COE) ให้ก่อน เช่นเดียวกับวีซ่านักเรียน เมื่อได้รับ COE แล้ว เราจึงจะสามารถนำเอกสารดังกล่าวไปยื่นขอวีซ่าทำงานที่สถานทูตหรือสถานกงสุลญี่ปุ่นในประเทศไทยได้ การลักลอบทำงานโดยใช้วีซ่าท่องเที่ยวถือเป็นเรื่องผิดกฎหมายร้ายแรง
วีซ่าธุรกิจ
วีซ่าประเภทนี้ออกให้สำหรับผู้ที่เดินทางไปเพื่อวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ เช่น การประชุม สัมมนา เจรจาการค้า หรือดูงาน โดยไม่ได้เป็นการเข้าไปทำงานเพื่อรับค่าจ้างในญี่ปุ่น ผู้ยื่นจะต้องมีเอกสารจากบริษัทในประเทศไทยและหนังสือเชิญจากบริษัทคู่ค้าในญี่ปุ่น เพื่อยืนยันวัตถุประสงค์การเดินทางที่ชัดเจนและน่าเชื่อถือ ประกอบการยื่นขอวีซ่าให้เป็นไปอย่างราบรื่น
ขั้นตอนการยื่นขอวีซ่า
หลังจากเตรียมเอกสารสำหรับวีซ่าประเภทที่ต้องการครบถ้วนแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการยื่นคำร้อง ซึ่งปัจจุบันมีช่องทางที่สะดวกและเป็นระบบ โดยเราสามารถดำเนินการผ่านศูนย์รับยื่นคำร้องขอวีซ่าประเทศญี่ปุ่น (JVAC) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายอย่างเป็นทางการ มีขั้นตอนดังนี้
- เตรียมเอกสาร รวบรวมเอกสารประกอบการยื่นคำร้องให้ครบถ้วนตามประเภทวีซ่าที่ต้องการขอ
- กรอกแบบฟอร์ม ดาวน์โหลดและกรอกแบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่าให้ถูกต้องและสมบูรณ์
- ยื่นเอกสาร นำเอกสารทั้งหมดไปยื่นที่ศูนย์ JVAC ตามวันและเวลาทำการ
- ชำระค่าธรรมเนียม ชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าและค่าบริการ
- รอผลการพิจารณา โดยทั่วไปใช้เวลาทำการประมาณ 5-7 วัน
- รับเล่มหนังสือเดินทางคืน เดินทางไปรับเล่มหนังสือเดินทางคืนที่ศูนย์ JVAC
การเตรียมตัวเข้าญี่ปุ่น

แม้การเที่ยวญี่ปุ่นไม่เกิน 15 วันจะไม่ต้องขอวีซ่า แต่การเตรียมตัวให้พร้อมเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ได้ราบรื่นมากขึ้น การเตรียมข้อมูลและเอกสารให้พร้อมแสดงถึงความตั้งใจในการมาท่องเที่ยวอย่างแท้จริง
เตรียมพาสปอร์ต
หนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ตคือเอกสารสำคัญที่สุด ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าพาสปอร์ตของเรามีอายุการใช้งานเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือนนับจากวันที่เดินทางกลับ และต้องมีหน้าว่างอย่างน้อย 2 หน้าสำหรับตราประทับเข้า-ออกประเทศ ควรเก็บรักษาพาสปอร์ตไว้ในที่ปลอดภัยเสมอ และอาจถ่ายสำเนาหรือถ่ายรูปเก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือเผื่อกรณีฉุกเฉิน
ลงทะเบียน Visit Japan Web
เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรของญี่ปุ่น เราควรลงทะเบียนในระบบ Visit Japan Web ล่วงหน้าก่อนการเดินทาง โดยกรอกข้อมูลส่วนตัว เที่ยวบิน และที่พักในญี่ปุ่น เมื่อลงทะเบียนสำเร็จ เราจะได้รับ QR Code สำหรับแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาในการกรอกเอกสารที่สนามบินและทำให้การเดินทางของเราคล่องตัวยิ่งขึ้น
เช็กของที่ห้ามนำเข้าญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นมีกฎระเบียบที่เข้มงวดเกี่ยวกับสิ่งของต้องห้ามนำเข้าประเทศ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ พืช ผัก และผลไม้สดทุกชนิด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคพืชและสัตว์ นอกจากนี้ยังมีข้อจำกัดเรื่องยาบางชนิด ของเหลว และสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ การตรวจสอบรายการของต้องห้ามล่วงหน้าจะช่วยให้เราไม่ต้องเสี่ยงกับการถูกยึดของหรือโดนปรับที่สนามบิน
แลกเงินสดให้เพียงพอ
แม้ญี่ปุ่นจะเป็นสังคมยุคใหม่ แต่ร้านค้าขนาดเล็ก ร้านอาหารตามตลาด หรือพื้นที่นอกเมืองใหญ่มักยังนิยมรับเงินสดเป็นหลัก เราจึงควรแลกเงินสดให้เพียงพอต่อแผนการใช้จ่าย และสำหรับคำถามที่ว่าหากต้องขอวีซ่าญี่ปุ่นต้องมีเงินในบัญชีเท่าไหร่นั้น แม้ไม่มีข้อกำหนดตายตัว แต่ควรมีเงินแสดงในบัญชีให้สอดคล้องกับค่าใช้จ่ายในการเดินทางตามความเป็นจริง
วางแผนการเดินทางในประเทศ
การวางแผนการเดินทาง เช่น การจองโรงแรมที่พัก การซื้อตั๋วรถไฟ JR Pass หรือตั๋วเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ล่วงหน้า ไม่เพียงช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ยังเป็นหลักฐานสำคัญที่แสดงต่อเจ้าหน้าที่ ตม. ได้ว่าเรามีแผนการท่องเที่ยวที่ชัดเจนและตั้งใจมาท่องเที่ยวจริง การมีแผนการเดินทางที่รัดกุมจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและทำให้การเดินทางของเราเป็นไปอย่างราบรื่นตามที่ตั้งใจไว้
ซึ่งไปญี่ปุ่นต้องขอวีซ่าไหมถ้าหากเราไปเที่ยวไม่เกิน 15 วัน ไม่ต้องขอวีซ่า แต่หากต้องการอยู่นานกว่านั้นหรือไปเพื่อจุดประสงค์อื่นจำเป็นต้องยื่นเรื่องให้ถูกต้อง การเตรียมตัวที่ดีและวางแผนค่าใช้จ่ายล่วงหน้าตั้งแต่ในประเทศไทยให้พร้อมย่อมอุ่นใจกว่า หากใครที่ต้องการเงินเสริมสภาพคล่องก่อนการเดินทาง หรือนำไปใช้ในการแลกเงินก่อนไปต่างประเทศ บัตรกดเงินสดยูเมะพลัสพร้อมเป็นตัวช่วยให้เรามีเงินสำรองตั้งแต่ตอนอยู่ในประเทศไทยได้อย่างสบายใจ สำหรับใครที่สนใจสมัครบัตรกดเงินสดยูเมะพลัสก็สามารถสมัครผ่านทางออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
*อัตราดอกเบี้ย 19.8% - 25% ต่อปี, กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว, ดูเงื่อนไขได้ที่เว็บไซต์ยูเมะพลัส
24/11/2025