มนุษย์เงินเดือนหลายคนอาจเคยสงสัยเมื่อเห็นสลิปเงินเดือนว่าประกันสังคมหักเท่าไหร่และเงินจำนวนนี้หายไปไหน การจ่ายเงินสมทบประกันสังคมเป็นหน้าที่ตามกฎหมายที่มอบสิทธิประโยชน์มากมายกลับคืนมาให้เราในยามจำเป็น บทความนี้จะพาไปอัปเดตข้อมูลล่าสุดว่าค่าประกันสังคมที่เราจ่ายกันทุกเดือนนั้นแท้จริงแล้วคิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ และแต่ละมาตราต้องจ่ายแตกต่างกันอย่างไรบ้าง เพื่อให้เราเข้าใจและวางแผนการเงินได้อย่างมั่นใจ
ประกันสังคมคืออะไร
ประกันสังคมเปรียบเสมือนหลักประกันพื้นฐานที่ภาครัฐสร้างขึ้นเพื่อดูแลคุณภาพชีวิตของคนทำงาน โดยให้ผู้ประกันตนส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมทุกเดือน เพื่อรับสิทธิประโยชน์ความคุ้มครองในด้านต่าง ๆ ซึ่งนับเป็นการสร้างความมั่นคงและหลักประกันในชีวิตให้กับผู้ประกันตนและครอบครัวในระยะยาว
ใครต้องจ่ายประกันสังคมบ้าง
ผู้ที่มีหน้าที่ต้องจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมโดยหลักแล้วคือลูกจ้างที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปีและไม่เกิน 60 ปี ซึ่งเรียกว่าผู้ประกันตนมาตรา 33 รวมถึงผู้ที่เคยเป็นลูกจ้างและสมัครใจส่งต่ออย่างมาตรา 39 และผู้ประกอบอาชีพอิสระตามมาตรา 40 โดยการจ่ายเงินสมทบจะเป็นการร่วมจ่ายกันระหว่าง 3 ฝ่าย คือ ลูกจ้าง นายจ้าง และรัฐบาล เพื่อนำไปจัดสรรสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ให้กับผู้ประกันตน
สิทธิประโยชน์ที่ได้จากการส่งประกันสังคม

การจ่ายค่าประกันสังคมสำหรับมาตรา 33 ในทุก ๆ เดือนนั้น ไม่ได้เป็นการจ่ายเงินทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ แต่เป็นการสร้างหลักประกันความมั่นคงให้กับชีวิต เพราะเราจะได้รับความคุ้มครองและสิทธิประโยชน์กลับคืนมาใน 7 กรณีสำคัญ ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่เรื่องสุขภาพไปจนถึงวัยเกษียณ ดังนี้
- กรณีเจ็บป่วยและอุบัติเหตุ เข้ารับการรักษาพยาบาลฟรีตามโรงพยาบาลในสิทธิ พร้อมรับเงินชดเชยเมื่อต้องหยุดงาน 50% ของค่าจ้าง และมีสิทธิค่าทำฟัน 900 บาทต่อปี
- กรณีคลอดบุตร รับค่าคลอดบุตรเหมาจ่าย 15,000 บาทต่อครั้ง และเงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อดูแลบุตร 50% ของค่าจ้างเฉลี่ยเป็นเวลา 90 วัน
- กรณีทุพพลภาพ ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้รายเดือน 50% ของค่าจ้าง พร้อมค่าบริการทางการแพทย์ตามเงื่อนไขที่กำหนด
- กรณีเสียชีวิต ผู้จัดการศพจะได้รับค่าทำศพ 50,000 บาท และทายาทจะได้รับเงินสงเคราะห์ตามระยะเวลาที่ผู้ประกันตนส่งเงินสมทบ
- กรณีชราภาพ สามารถเลือกรับเป็นเงินบำเหน็จ (เงินก้อน) หรือบำนาญ (รายเดือน) เมื่อมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์และสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน
- กรณีสงเคราะห์บุตร ได้รับเงินอุดหนุนบุตร 800 บาทต่อเดือนต่อคน (คราวละไม่เกิน 3 คน) จนกว่าบุตรจะมีอายุครบ 6 ปีบริบูรณ์
- กรณีว่างงาน กรณีถูกเลิกจ้างรับเงินชดเชย 50% ของค่าจ้าง (สูงสุด 180 วัน) และกรณีลาออก รับเงินชดเชย 30% ของค่าจ้าง (สูงสุด 90 วัน)
ประกันสังคมหักเท่าไหร่บ้าง อัปเดตล่าสุดปี 68

มาถึงคำถามสำคัญที่ว่าประกันสังคมหักเท่าไหร่ซึ่งอัตราการหักเงินสมทบจะแตกต่างกันไปตามประเภทของผู้ประกันตนแต่ละมาตรา โดยมีรายละเอียดการคำนวณค่าประกันสังคมและการอัปเดตเพดานรายได้ล่าสุดในปี 2568 และในอนาคตที่ควรรู้ดังนี้
ผู้ประกันตนมาตรา 33
สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 หรือพนักงานบริษัทเอกชนทั่วไป อัตราประกันสังคมหัก 5% ของเงินเดือน โดยคำนวณจากฐานเงินเดือนสูงสุด 15,000 บาท หรือจ่ายสูงสุด 750 บาท นั่นเอง แต่หลังจากนี้จะมีการทยอยปรับฐานเพดานเงินเดือนใหม่แบบขั้นบันได ซึ่งจะเริ่มมีผลตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป ดังนี้
- ปัจจุบัน - 31 ธันวาคม 2568 ฐานเงินเดือนสูงสุด 15,000 บาท จ่ายเงินสมทบสูงสุด 750 บาทต่อเดือน
- 1 มกราคม 2569 - 31 ธันวาคม 2571 ฐานเงินเดือนสูงสุด 17,500 บาท จ่ายเงินสมทบสูงสุด 875 บาทต่อเดือน
- 1 มกราคม 2572 - 31 ธันวาคม 2574 ฐานเงินเดือนสูงสุด 20,000 บาท จ่ายเงินสมทบสูงสุด 1,000 บาทต่อเดือน
- 1 มกราคม 2575 เป็นต้นไป ฐานเงินเดือนสูงสุด 23,000 บาท จ่ายเงินสมทบสูงสุด 1,150 บาทต่อเดือน
ผู้ประกันตนมาตรา 39
ผู้ประกันตนมาตรา 39 คือผู้ที่เคยทำงานในบริษัท (มาตรา 33) มาก่อนแล้วลาออก แต่ต้องการรักษาสิทธิประกันสังคมไว้จึงสมัครใจส่งเงินต่อเอง สำหรับคำถามว่าประกันสังคมหักเท่าไหร่สำหรับมาตรานี้จะเป็นการจ่ายเงินสมทบในอัตราคงที่เดือนละ 432 บาท โดยคำนวณจากฐานเงินเดือนสมมติที่ 4,800 บาท (4,800 บาท x 9%) เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์พื้นฐานที่สำคัญอย่างต่อเนื่อง
ผู้ประกันตนมาตรา 40
ส่วนผู้ประกันตนมาตรา 40 ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระ หรือฟรีแลนซ์ สามารถเลือกส่งค่าประกันสังคมได้ตามความสมัครใจ โดยมีให้เลือก 3 ทางเลือก แต่ละทางเลือกจะได้รับสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกันไป ได้แก่ ทางเลือกที่ 1 จ่ายเงินสมทบ 70 บาทต่อเดือน ทางเลือกที่ 2 จ่าย 100 บาทต่อเดือน และทางเลือกที่ 3 จ่ายสูงสุด 300 บาทต่อเดือน
วิธีเช็กประกันสังคม
หลังจากทราบแล้วว่าประกันสังคมหักกี่เปอร์เซ็นต์เราสามารถตรวจสอบข้อมูลการส่งเงินสมทบ ยอดเงินสะสมชราภาพ หรือสถานพยาบาลตามสิทธิของตนเองได้ง่าย ๆ ผ่านช่องทางที่สะดวก ดังนี้
- เว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม เข้าไปที่ www.sso.go.th และเลือกเมนู “ตรวจสอบข้อมูลผู้ประกันตน” เพื่อล็อกอินเข้าระบบ
- แอปพลิเคชัน SSO Connect ดาวน์โหลดได้ทั้งบน iOS และ Android เพื่อเช็กข้อมูลได้สะดวกทุกที่ทุกเวลาผ่านมือถือ
- สายด่วน 1506 โทรศัพท์สอบถามข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ได้โดยตรงตลอด 24 ชั่วโมง
- สำนักงานประกันสังคม เดินทางไปติดต่อด้วยตนเองที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขาใกล้บ้านในวันและเวลาราชการ
การจ่ายค่าประกันสังคมเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยสร้างหลักประกันให้ชีวิต โดยอัตราการหักจะขึ้นอยู่กับประเภทของผู้ประกันตนแต่ละมาตรา ซึ่งเราควรตรวจสอบสิทธิของตนเองอยู่เสมอ แต่หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต้องใช้เงินด่วน บัตรกดเงินสดยูเมะพลัสก็พร้อมเป็นวงเงินสำรอง เพิ่มความอุ่นใจ ให้เราก้าวผ่านทุกสถานการณ์ไปได้อย่างสบายใจสำหรับใครที่สนใจสมัครบัตรกดเงินสดยูเมะพลัสก็สามารถสมัครผ่านทางออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
*อัตราดอกเบี้ย 19.8% - 25% ต่อปี, กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว, ดูเงื่อนไขได้ที่เว็บไซต์ยูเมะพลัส
14/12/2025