หลายคนใช้บัตรเครดิตแต่ไม่เข้าใจการคำนวณดอกเบี้ยบัตรเครดิตอย่างถูกวิธี ทำให้ต้องเสียเงินมากกว่าที่ควรจะเป็น การรู้จักวิธีคิดดอกเบี้ยที่ถูกต้องช่วยให้เราวางแผนการใช้จ่ายและจัดการหนี้บัตรเครดิตได้ดีขึ้น มาทำความเข้าใจวิธีคำนวณดอกเบี้ยบัตรเครดิตกันแบบละเอียด เพื่อไม่ให้ต้องจ่ายแพงเกินความจำเป็นกัน

ดอกเบี้ยบัตรเครดิต คืออะไร

ดอกเบี้ยบัตรเครดิต คือ ค่าธรรมเนียมที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินเรียกเก็บจากผู้ถือบัตรเมื่อมีการค้างชำระหนี้ หรือชำระไม่เต็มจำนวน เปรียบเสมือนค่าเช่าเงินที่เราใช้ไปก่อนแล้วทยอยชำระคืนในภายหลัง ดอกเบี้ยจะคำนวณจากยอดค้างชำระที่เกิดขึ้น โดยคิดตามจำนวนวันที่ยังไม่ได้ชำระเงินคืน และอัตราดอกเบี้ยรายปีที่กำหนดไว้ในเงื่อนไขบัตรเครดิต การเข้าใจระบบดอกเบี้ยถือเป็นพื้นฐานสำคัญในการบริหารการเงินได้ดีมากขึ้น

ดอกเบี้ยบัตรเครดิตเกิดขึ้นได้อย่างไร

ดอกเบี้ยบัตรเครดิตเกิดขึ้นได้ใน 3 กรณีหลัก คือ กรณีแรกเมื่อเราชำระช้าเกินวันครบกำหนดชำระเงิน ทำให้ถูกคิดดอกเบี้ยนับจากวันที่ทำรายการจนถึงวันที่ชำระเงิน กรณีที่สองคือการชำระตรงเวลาแต่จ่ายเพียงยอดขั้นต่ำ ซึ่งจะถูกคิดดอกเบี้ยจากยอดคงค้างทั้งหมด และกรณีสุดท้ายคือการกดเงินสดจากบัตรเครดิต ซึ่งจะเริ่มคิดดอกเบี้ยทันทีตั้งแต่วันที่ทำรายการโดยไม่มีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ย พร้อมค่าธรรมเนียมการเบิกถอนเพิ่มเติม ทำให้มีต้นทุนสูงกว่าการใช้บัตรกดเงินสดทั่วไป

อัตราดอกเบี้ยเท่าไหร่

ในปัจจุบันธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดให้สถาบันการเงินคิดอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตทุกประเภทอยู่ที่ไม่เกิน 16% ต่อปี ซึ่งลดลงจากเดิมที่เคยกำหนดไว้สูงถึง 18% เพื่อช่วยลดภาระให้แก่ผู้บริโภคในสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้บัตรควรตระหนักว่าแม้อัตราดอกเบี้ยจะลดลง แต่การสะสมยอดค้างชำระเป็นเวลานานยังคงทำให้ภาระดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากดอกเบี้ยจะถูกคำนวณทบต้นในแต่ละรอบบัญชี ส่งผลให้หนี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

วิธีคำนวณดอกเบี้ยบัตรเครดิต

การคำนวณดอกเบี้ยบัตรเครดิตอาจดูซับซ้อน แต่เมื่อเข้าใจหลักการพื้นฐานแล้วจะช่วยให้เราวางแผนการชำระเงินได้อย่างชาญฉลาด วิธีคำนวณจะแตกต่างกันไปตามรูปแบบการชำระเงิน ทั้งกรณีจ่ายขั้นต่ำตรงเวลา จ่ายเต็มจำนวนแต่ไม่ตรงเวลา หรือกรณีเบิกถอนเงินสด มาดูแต่ละกรณีอย่างละเอียดเพื่อให้เข้าใจวิธีคิดดอกเบี้ยได้อย่างถูกต้อง

1. จ่ายขั้นต่ำ ตรงเวลา

กรณีที่เราเลือกชำระเงินตามยอดขั้นต่ำตรงตามกำหนดเวลา การคำนวณดอกเบี้ยบัตรเครดิตจะแยกออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 ดอกเบี้ยเงินต้น ซึ่งคิดจากวันที่บันทึกรายการถึงวันก่อนวันชำระเงิน 1 วัน และส่วนที่ 2 ดอกเบี้ยค้างชำระ ที่คิดจากวันที่ชำระขั้นต่ำจนถึงวันสรุปยอดบัญชีถัดไป วิธีนี้ทำให้ดอกเบี้ยสะสมต่อเนื่องและอาจทำให้ยอดหนี้ลดลงช้ากว่าที่ควร

ตัวอย่าง เรารูดซื้อสินค้า 10,000 บาท เมื่อวันที่ 5 มีนาคม โดยบัตรเครดิตสรุปยอดทุกวันที่ 25 ของเดือน และวันครบกำหนดชำระเงิน ทุกวันที่ 10 ของเดือนถัดไป อัตราดอกเบี้ยฯ อยู่ที่ 16% ต่อมาในวันที่ 10 เมษายน เราเลือกชำระขั้นต่ำ 10% คิดเป็นเงินจำนวน 1,000 บาท ในกรณีนี้จะถูกคิดดอกเบี้ยส่วนแรกจากยอดที่ใช้ไปทั้งหมด

วิธีคำนวณดอกเบี้ยส่วนที่ 1 ดอกเบี้ยเงินต้น

  • ค่าใช้จ่ายแต่ละรายการ X อัตราดอกเบี้ยฯ ต่อปี X จำนวนวัน (นับจากวันที่บันทึกรายการถึงวันก่อนวันชำระ 1 วัน) / จำนวนวันใน 1 ปี
  • 10,000 x 16% x 36 (วันที่ 5 มี.ค. - 9 เม.ย. = 36 วัน) / 365 วัน = 157.81 บาท

วิธีคำนวณดอกเบี้ยส่วนที่ 2 ดอกเบี้ยค้างชำระ

  • ค่าคงค้าง X อัตราดอกเบี้ยฯ ต่อปี X จำนวนวัน (จากวันที่ชำระขั้นต่ำจนถึงวันสรุปยอดบัญชีถัดไป) / จำนวนวันใน 1 ปี 
  • 9,000 x 16% x 16 (10 - 25 เม.ย. = 16 วัน) / 365 = 63.12 บาท

รอบครบกำหนดชำระวันที่ 25 เม.ย. จะมีดอกเบี้ยที่เรียกเก็บเพิ่มทั้งหมด 157.81 + 63.12 = 220.93 บาท รอบครบกำหนดชำระถัดไปในวันที่ 10 พ.ค. จะมียอดคงค้างพร้อมดอกเบี้ยที่เกิดขึ้น เป็นจำนวนเงิน 9,000 + 220.93 = 9220.93 บาท
การคำนวณดอกเบี้ยจ่ายขั้นต่ำ ตรงเวลา

2. จ่ายเต็มจำนวน จ่ายไม่ตรงเวลา

ตัวอย่าง เรารูด 20,000 บาท เมื่อวันที่ 5 มี.ค. และชำระเงินในวันที่ 19 เม.ย. ดอกเบี้ยบัตรเครดิต 16% จำนวนวันนับจากวันที่บันทึกรายการถึงวันก่อนวันชำระ 1 วัน คือ 45 วัน

วิธีคำนวณดอกเบี้ยเบื้องต้น

  • ค่าใช้จ่ายแต่ละรายการ X อัตราดอกเบี้ยฯ ต่อปี X จำนวนวัน (นับจากวันที่บันทึกรายการถึงวันก่อนวันชำระ 1 วัน) / จำนวนวันใน 1 ปี 
  • 20,000 x 16% x 45 / 365 = 394.52 บาท

วิธีคำนวณดอกเบี้ยรวมทั้งหมด

การชำระเงินล่าช้ายังส่งผลให้เกิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในรูปแบบค่าธรรมเนียมการทวงถามหนี้ ซึ่งโดยทั่วไปจะอยู่ระหว่าง 50-100 บาทต่อรอบบัญชี พร้อมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ทั้งนี้ สถาบันการเงินบางแห่งอาจยกเว้นค่าธรรมเนียมนี้ในรอบบัญชีแรกที่ผิดนัดชำระ ค่าใช้จ่ายเหล่านี้อยู่ภายใต้เงื่อนไขการคิดค่าธรรมเนียมติดตามทวงถามหนี้ที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย ดังนั้น หากเราไม่สามารถชำระหนี้ได้ตรงเวลาแม้จะจ่ายเต็มจำนวน จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในรอบบิลแรก (สมมติค่าทวงถามหนี้ 100 บาท) รวมเป็น 394.52 + 107 = 501.52 บาท

3. กรณีกดเงินสดจากบัตรเครดิต

ตัวอย่าง เรากดเงินสดด้วยบัตรเครดิต 10,000 บาท เมื่อวันที่ 2 พ.ย. โดยวันสรุปยอดบัญชีคือทุกวันที่ 10 ของเดือน และวันครบกำหนดชำระเงิน ทุกวันที่ 28 ของเดือน (อัตราดอกเบี้ย อยู่ที่ 16%)

วิธีคำนวณดอกเบี้ยเบื้องต้น

จำนวนเบิกถอนเงินสดล่วงหน้า X อัตราดอกเบี้ยต่อปี X จำนวนวัน (นับจากวันที่บันทึกรายการถึงวันก่อนวันชำระ 1 วัน) / จำนวนวันใน 1 ปี จากกรณีตัวอย่างเมื่อคำนวณดอกเบี้ยของการเบิกถอนเงินสด (2 – 27 พ.ย. = 26 วัน) = 10,000 x 16% x 26 / 365 = 113.97 บาท

วิธีคำนวณดอกเบี้ยรวมทั้งหมด

การเบิกเงินสดผ่านบัตรเครดิตมีต้นทุนที่สูงกว่าการใช้จ่ายปกติมาก นอกจากดอกเบี้ยที่เริ่มนับตั้งแต่วันที่เบิกถอนแล้ว ยังมีค่าธรรมเนียมการเบิกถอนอีก 3% ของยอดเงิน และต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% จากค่าธรรมเนียมดังกล่าว ทำให้การเบิกเงินสดเพียงครั้งเดียวต้องแบกรับค่าใช้จ่ายที่สูงเกินความจำเป็น จึงไม่แนะนำให้ใช้บริการนี้หากไม่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง

  • ค่าธรรมเนียมเบิกถอนเงินสดล่วงหน้า 3% 10,000 × 3% = 300 บาท
  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% 300 × 7% = 21 บาท
  • ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายทั้งหมด 113.97 + 321 = 434.97 บาท

การคิดดอกเบี้ยของบัตรกดเงินสด

สำหรับบัตรกดเงินสดยูเมะพลัส มีวิธีการคิดดอกเบี้ยที่แตกต่างจากบัตรเครดิตเล็กน้อย โดยคิดอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินสูงสุดไม่เกิน 25% ต่อปี สำหรับบัตรยูเมะพลัสทั่วไป และอัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 19.8% ต่อปีสำหรับบัตรยูเมะพลัส พรีเมียร์ โดยมีการคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกตามยอดเงินที่ใช้จริง หากไม่มีการกดเงินสดก็จะไม่มีการคิดดอกเบี้ย โดยเราสามารถเข้าไปใช้โปรแกรมคำนวณดอกเบี้ยบัตรเครดิตเพื่อดูวิธีการคำนวณอัตราดอกเบี้ยของบัตรกดเงินสดยูเมะพลัส ในหน้าเว็บไซต์ได้เลย

การเข้าใจวิธีคำนวณดอกเบี้ยบัตรเครดิตช่วยให้เราวางแผนการใช้จ่ายได้อย่างชาญฉลาด หลีกเลี่ยงการเสียดอกเบี้ยโดยไม่จำเป็น ควรพยายามชำระยอดเต็มจำนวนและตรงเวลาทุกรอบบัญชี หลีกเลี่ยงการชำระขั้นต่ำเป็นประจำ และใช้บริการเบิกเงินสดเฉพาะในกรณีจำเป็นเท่านั้น สำหรับใครที่สนใจสมัครบัตรกดเงินสดยูเมะพลัสก็สามารถสมัครผ่านทางออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
บัตรกดเงินสดยูเมะพลัส

*อัตราดอกเบี้ย 19.8% - 25% ต่อปี, กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว, ดูเงื่อนไขได้ที่เว็บไซต์ยูเมะพลัส