
ในยุคที่ค่าครองชีพสูงขึ้นทุกวันการหารายได้เสริมกลายเป็นสิ่งที่หลายคนให้ความสนใจ หากเรากำลังคิดว่าขายอะไรให้ได้วันละ 1000 บาท มาเป็นเงินเก็บสำรองไว้ใช้ในครอบครัว บทความนี้เราจึงรวบรวมไอเดียของขายที่น่าสนใจสำหรับแม่ค้ามือใหม่ขายอะไรดีที่ได้กำไรง่ายเพื่อเป็นรายได้เสริม แต่ยังไม่มีประสบการณ์ ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี และกังวลเรื่องเงินลงทุนกัน
35 ไอเดียขายอะไรให้ได้วันละ 1000
การขายของออนไลน์หรือหน้าร้านสามารถสร้างรายได้ที่ดีได้ ถ้าเรารู้จักเลือกสินค้าที่ตอบโจทย์ตลาด มีต้นทุนที่เหมาะสม และสามารถขายได้จริง เรามาดูไอเดียดี ๆ ขายอะไรให้ได้วันละ 1000 ที่แม่ค้ามือใหม่สามารถเริ่มต้นได้ง่าย ไม่ต้องลงทุนมากกัน
1. ลูกชิ้นทอด
ลูกชิ้นทอดเป็นสตรีทฟู้ดยอดนิยมที่ขายง่าย ลงทุนต่ำ และทำกำไรได้ดี ด้วยต้นทุนประมาณ 500-700 บาทต่อวัน เราสามารถขายได้ในราคาเริ่มต้นไม้ละ 5-10 บาท โดยเฉพาะถ้าเราเพิ่มความพิเศษด้วยน้ำจิ้มสูตรเด็ด หรือลูกชิ้นหลากหลายประเภท จะยิ่งดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น ทำเลที่เหมาะคือแหล่งชุมชน ตลาดนัด หน้าโรงเรียน หรือออฟฟิศ สามารถทำรายได้วันละ 1,000-1,500 บาทได้ไม่ยาก
2. น้ำปั่น
น้ำปั่นเป็นธุรกิจที่เหมาะกับแม่ค้ามือใหม่ เพราะเริ่มต้นง่าย ลงทุนไม่มาก เพียงมีเครื่องปั่น ผลไม้สด และวัตถุดิบพื้นฐานก็สามารถเริ่มต้นได้แล้ว ต้นทุนเฉลี่ยอยู่ที่แก้วละ 15-20 บาท ขายราคา 35-45 บาท ยิ่งถ้าเรามีเมนูแปลกใหม่ เช่น น้ำผลไม้ผสมโซดา หรือเมนูเพื่อสุขภาพ จะยิ่งดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น น้ำปั่นขายดีตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในหน้าร้อน สามารถทำรายได้วันละ 1,000-2,000 บาท
3. ข้าวกล่องส่งออฟฟิศ
ข้าวกล่องส่งออฟฟิศเป็นธุรกิจที่มีลูกค้าประจำและรายได้สม่ำเสมอ เริ่มต้นด้วยการติดต่อบริษัทหรือออฟฟิศใกล้บ้าน นำเสนอเมนูหลากหลายในราคาย่อมเยา โดยมีต้นทุนประมาณ 30-40 บาทต่อกล่อง ขายราคา 50-70 บาท ทำให้ได้กำไรกล่องละ 20-30 บาท หากมีลูกค้าวันละ 30-50 คน จะสามารถทำรายได้ 1,000-1,500 บาทต่อวันได้ไม่ยาก และยังสามารถต่อยอดรับจัดอาหารงานประชุมหรืออีเวนท์ต่าง ๆ ได้อีกด้วย
4. แหนมคลุก ข้าวทอด
แหนมคลุกและข้าวทอดเป็นอาหารว่างที่คนไทยชื่นชอบ ลงทุนไม่สูงมาก โดยมีต้นทุนประมาณ 20-25 บาทต่อถุง ขายราคา 40-50 บาท ได้กำไรถุงละ 20-25 บาท เมนูนี้เตรียมล่วงหน้าได้ ทำง่าย และสามารถขายได้ทั้งในตลาดนัด หน้าโรงเรียน หรือออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชันส่งอาหาร หากขายได้วันละ 30-40 ถุง จะมีรายได้ 1,000-1,200 บาทต่อวัน ความแปลกใหม่ในรสชาติหรือวัตถุดิบจะช่วยสร้างความแตกต่างและดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น
5. ขนมโตเกียว
ขนมโตเกียวเป็นขนมยอดนิยมที่มีต้นทุนต่ำ ทำง่าย และขายดีตลอดทั้งวัน ด้วยต้นทุนแผ่นละ 5-7 บาท ขายราคา 15-20 บาท ทำให้ได้กำไรแผ่นละ 10-15 บาท ยิ่งถ้าเรามีไส้แปลกใหม่หลากหลาย ทั้งคาวและหวาน จะยิ่งดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น หากขายได้วันละ 70-100 ชิ้น จะมีรายได้ประมาณ 1,000-1,500 บาทต่อวัน ทำเลที่เหมาะคือแหล่งชุมชน ตลาดนัด หรือหน้าโรงเรียน สามารถเริ่มต้นด้วยเงินลงทุนเพียง 2,000-3,000 บาท
6. ชานมไข่มุก
ชานมไข่มุกยังคงเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมที่คนไม่รู้ว่าจะลงทุนขายอะไรดี งบน้อยก็สามารถเริ่มต้นได้ ด้วยต้นทุนแก้วละ 15-20 บาท ขายราคา 35-45 บาท ได้กำไรแก้วละ 20-25 บาท หากมีทำเลดี เช่น ใกล้สถานศึกษา หรือแหล่งชุมชน สามารถขายได้วันละ 40-50 แก้ว ทำรายได้ 1,000-1,200 บาทต่อวัน การมีเมนูพิเศษ เช่น ชานมมะพร้าว บราวน์ชูการ์ หรือใช้วัตถุดิบพรีเมียม จะช่วยสร้างความแตกต่างและดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น
7. ข้าวเหนียวหมูปิ้ง
ข้าวเหนียวหมูปิ้งเป็นอาหารที่คนไทยนิยมรับประทานตั้งแต่เช้าจนเย็น มีต้นทุนต่อชุดประมาณ 25-30 บาท ขายราคา 40-50 บาท ได้กำไรชุดละ 15-20 บาท หากขายได้วันละ 50-70 ชุด จะมีรายได้ 1,000-1,400 บาทต่อวัน จุดเด่นอยู่ที่การหมักหมูให้มีรสชาติอร่อย เนื้อนุ่ม และการทำน้ำจิ้มสูตรพิเศษ ซึ่งสามารถสร้างความแตกต่างและดึงดูดลูกค้าประจำได้ สามารถขายได้ทั้งหน้าร้าน ตลาดนัด หรือรับออเดอร์ออนไลน์
8. ผลไม้
การขายผลไม้สดหรือผลไม้แปรรูป เช่น ผลไม้ตามฤดูกาล ผลไม้ปอกพร้อมทาน หรือผลไม้แช่อิ่ม เป็นธุรกิจที่มีฐานลูกค้ากว้าง เนื่องจากเป็นของกินที่ดีต่อสุขภาพ ต้นทุนจะขึ้นอยู่กับชนิดของผลไม้ แต่โดยเฉลี่ยจะมีกำไรประมาณ 30-40% จากราคาขาย หากเลือกซื้อผลไม้ตามฤดูกาลและสามารถหาแหล่งวัตถุดิบราคาดี จะยิ่งทำให้มีกำไรมากขึ้น การนำเสนอในรูปแบบที่สะดวกสำหรับลูกค้า เช่น ปอกพร้อมทาน หรือจัดเป็นชุดผลไม้รวม จะช่วยเพิ่มมูลค่าและดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น
9. ข้าวโพดอบเนย
ข้าวโพดอบเนยเป็นขนมที่มีต้นทุนต่ำ ทำง่าย และขายได้ตลอดทั้งวัน โดยมีต้นทุนประมาณ 15-20 บาทต่อถุง ขายราคา 35-40 บาท ได้กำไรถุงละ 20 บาท หากขายได้วันละ 50-60 ถุง จะมีรายได้ 1,000-1,200 บาทต่อวัน จุดเด่นอยู่ที่ความหอมของเนยและรสชาติของซอสที่โรยบนข้าวโพด เช่น ซอสคาราเมล ซอสชีส หรือซอสปาปริก้า ซึ่งสามารถสร้างความแตกต่างและดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น เหมาะสำหรับขายในตลาดนัด ห้างสรรพสินค้า หรือแหล่งท่องเที่ยว
10. ปาท่องโก๋กับน้ำเต้าหู้
ปาท่องโก๋กับน้ำเต้าหู้เป็นอาหารเช้ายอดนิยมของคนไทย มีต้นทุนที่ไม่สูงมาก โดยน้ำเต้าหู้มีต้นทุนแก้วละ 8-10 บาท ขายราคา 20 บาท ส่วนปาท่องโก๋มีต้นทุนชิ้นละ 2-3 บาท ขายราคา 5-7 บาท หากขายได้วันละ 50-60 ชุด จะมีรายได้ 1,000-1,200 บาทต่อวัน ข้อดีคือสามารถขายได้เฉพาะช่วงเช้า ทำให้มีเวลาว่างในช่วงบ่าย แต่ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมของ การทำปาท่องโก๋ให้กรอบนอกนุ่มใน และน้ำเต้าหู้รสชาติกลมกล่อม จะช่วยสร้างความประทับใจและทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ
11. เครปญี่ปุ่นไส้แน่น
เครปญี่ปุ่นเป็นขนมที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ด้วยต้นทุนแผ่นละ 15-20 บาท ขายราคา 35-45 บาท ได้กำไรแผ่นละ 20-25 บาท หากขายได้วันละ 40-50 แผ่น จะมีรายได้ 1,000-1,250 บาทต่อวัน จุดเด่นอยู่ที่การใส่ไส้แน่น ๆ ทั้งไส้คาวและหวาน เช่น ไส้ไก่เทอริยากิ ไส้ช็อกโกแลตกล้วย หรือไส้สตรอว์เบอร์รีครีมชีส การมีเมนูที่หลากหลายและแปลกใหม่จะช่วยดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น เหมาะสำหรับขายในตลาดนัด สถานศึกษา หรือแหล่งชุมชน
12. ขนมปังปิ้ง
ขนมปังปิ้งเป็นขนมที่ทำง่าย ลงทุนต่ำ และสามารถสร้างความแตกต่างได้จากท็อปปิ้งที่หลากหลาย โดยมีต้นทุนชิ้นละ 10-15 บาท ขายราคา 25-35 บาท ได้กำไรชิ้นละ 15-20 บาท หากขายได้วันละ 50-70 ชิ้น จะมีรายได้ 1,000-1,400 บาทต่อวัน การสร้างความแตกต่างด้วยท็อปปิงพิเศษ เช่น นมข้นหวานสูตรเข้มข้น เนยสด น้ำผึ้ง หรือช็อกโกแลต และการใช้ขนมปังคุณภาพดี จะช่วยสร้างความประทับใจและทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ
13. น้ำแข็งไส
น้ำแข็งไสเป็นของหวานยอดนิยมในหน้าร้อน มีต้นทุนต่อถ้วยประมาณ 15-20 บาท ขายราคา 35-45 บาท ได้กำไรถ้วยละ 20-25 บาท หากขายได้วันละ 40-50 ถ้วย จะมีรายได้ 1,000-1,250 บาทต่อวัน จุดเด่นอยู่ที่การทำน้ำเชื่อมหลากรสชาติ การใส่ท็อปปิงแปลกใหม่ เช่น บุก วุ้นมะพร้าว เฉาก๊วย หรือผลไม้สด ซึ่งสามารถสร้างความแตกต่างและดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น เป็นธุรกิจที่ขายดีในหน้าร้อน และสามารถปรับเปลี่ยนเป็นเมนูอื่นในหน้าหนาวได้
14. ขนมจีนน้ำยา
ขนมจีนน้ำยาเป็นอาหารที่คนไทยชื่นชอบ โดยมีต้นทุนชุดละ 25-30 บาท ขายราคา 40-50 บาท ได้กำไรชุดละ 15-20 บาท หากขายได้วันละ 50-70 ชุด จะมีรายได้ 1,000-1,400 บาทต่อวัน จุดเด่นอยู่ที่การทำน้ำยาให้มีรสชาติเข้มข้น อร่อย และการมีน้ำยาหลากหลายประเภท เช่น น้ำยาป่า น้ำยากะทิ น้ำเงี้ยว หรือน้ำพริก พร้อมเครื่องเคียงที่สด สะอาด ซึ่งจะช่วยสร้างความประทับใจและทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ เหมาะสำหรับขายในตลาดสด ตลาดนัด หรือชุมชน
15. กล้วยทอด
กล้วยทอดเป็นขนมไทยที่ทำง่าย ลงทุนต่ำ และขายได้ตลอดทั้งวัน โดยมีต้นทุนถุงละ 15-20 บาท ขายราคา 30-40 บาท ได้กำไรถุงละ 15-20 บาท หากขายได้วันละ 50-70 ถุง จะมีรายได้ 1,000-1,400 บาทต่อวัน จุดเด่นอยู่ที่การทำแป้งทอดให้กรอบนอกนุ่มใน การเลือกกล้วยที่สุกพอดี และการทอดให้ได้สีสวย น่ารับประทาน นอกจากนี้ ยังสามารถพัฒนาเป็นกล้วยทอดรสชาติพิเศษ เช่น กล้วยทอดราดช็อกโกแลต กล้วยทอดราดนมข้น หรือกล้วยทอดโรยน้ำตาล เพื่อเพิ่มความหลากหลายและดึงดูดลูกค้า
16. ส้มตำ
ส้มตำเป็นอาหารไทยยอดนิยมที่ขายง่ายและมีกำไรดี โดยมีต้นทุนจานละ 25-30 บาท ขายราคา 40-60 บาท ได้กำไรจานละ 15-30 บาท หากขายได้วันละ 40-50 จาน จะมีรายได้ 1,000-1,500 บาทต่อวัน จุดเด่นอยู่ที่การทำน้ำส้มตำให้มีรสชาติเข้มข้น กลมกล่อม และการมีส้มตำหลากหลายประเภท เช่น ส้มตำไทย ส้มตำปูปลาร้า ตำแตง หรือตำซั่ว พร้อมเครื่องเคียงที่สด สะอาด ซึ่งจะช่วยสร้างความประทับใจและทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ ส้มตำสามารถขายควบคู่กับไก่ย่าง ข้าวเหนียว หรืออาหารอีสานอื่น ๆ เพื่อเพิ่มยอดขาย
17. ผัดมาม่า
ผัดมาม่าเป็นเมนูยอดนิยมที่ขายง่ายและมีต้นทุนต่ำ ด้วยต้นทุนจานละ 20-25 บาท ขายราคา 40-50 บาท ได้กำไรจานละ 20-25 บาท หากขายได้วันละ 40-50 จาน จะมีรายได้ 1,000-1,250 บาทต่อวัน จุดเด่นอยู่ที่ความหลากหลายของท็อปปิง เช่น ไข่ดาว ไส้กรอก หมูสับ ปลาหมึก หรือการทำซอสผัดให้มีรสชาติเข้มข้น กลมกล่อม ไม่ว่าจะเป็นแบบซอสต้มยำ ซอสผัดขี้เมา หรือซอสผัดพริกเผา เพื่อสร้างความแตกต่างจากร้านอื่น เหมาะสำหรับขายในตลาดนัด สถานศึกษา หรือแหล่งชุมชน
18. ข้าวไข่เจียว
ข้าวไข่เจียวเป็นอาหารจานเดียวที่ทำง่าย ต้นทุนต่ำ และเป็นที่นิยมของคนทุกเพศทุกวัย โดยมีต้นทุนจานละ 15-20 บาท ขายราคา 30-40 บาท ได้กำไรจานละ 15-20 บาท หากขายได้วันละ 50-70 จาน จะมีรายได้ 1,000-1,400 บาทต่อวัน จุดเด่นอยู่ที่การทำไข่เจียวให้ฟู นุ่ม อร่อย และมีหลากหลายแบบ เช่น ไข่เจียวหมูสับ ไข่เจียวกุ้งสับ ไข่เจียวผักกาดดอง หรือไข่เจียวใส่ผัก พร้อมน้ำจิ้มสูตรเด็ด ที่จะช่วยสร้างความแตกต่างและดึงดูดลูกค้า
19. กุ้งแช่น้ำปลา
กุ้งแช่น้ำปลาเป็นอาหารที่ทำง่าย สด สะอาด และเป็นที่นิยมในกลุ่มคนรักสุขภาพและคนชอบรสจัด โดยมีต้นทุนจานละ 30-40 บาท ขายราคา 60-80 บาท ได้กำไรจานละ 30-40 บาท หากขายได้วันละ 25-35 จาน จะมีรายได้ 1,000-1,400 บาทต่อวัน จุดเด่นอยู่ที่การเลือกกุ้งสดขนาดพอดี น้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด และเครื่องเคียงที่สด กรอบ อร่อย เช่น มะนาว พริกสด กระเทียม และผักสด ซึ่งจะช่วยสร้างความประทับใจและทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ
20. ยำต่าง ๆ
ยำเป็นอาหารไทยที่มีรสชาติเปรี้ยว เผ็ด เค็ม หวาน ครบรส ทำง่าย และมีหลากหลายประเภท โดยมีต้นทุนจานละ 25-35 บาท ขายราคา 50-70 บาท ได้กำไรจานละ 25-35 บาท หากขายได้วันละ 30-40 จาน จะมีรายได้ 1,000-1,400 บาทต่อวัน จุดเด่นอยู่ที่การทำน้ำยำให้มีรสชาติกลมกล่อม เข้มข้น และการมียำหลากหลายประเภท เช่น ยำวุ้นเส้น ยำมาม่า ยำหมูยอ ยำไข่ดาว หรือยำปลาทู พร้อมวัตถุดิบที่สด สะอาด ซึ่งจะช่วยสร้างความแตกต่างและดึงดูดลูกค้าได้หลากหลายกลุ่ม
21. ปลาหมึกย่าง
ปลาหมึกย่างเป็นอาหารทานเล่นที่เป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน โดยมีต้นทุนไม้ละ 20-30 บาท ขายราคา 40-60 บาท ได้กำไรไม้ละ 20-30 บาท หากขายได้วันละ 35-50 ไม้ จะมีรายได้ 1,000-1,500 บาทต่อวัน จุดเด่นอยู่ที่การหมักปลาหมึกให้นุ่ม หอม อร่อย การย่างให้ได้ความสุกพอดี และน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด เผ็ดจัดจ้าน ซึ่งจะช่วยสร้างความประทับใจและทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ สามารถขายในตลาดนัด งานเทศกาล หรือแหล่งท่องเที่ยว
22. แซนด์วิช
แซนด์วิชเป็นอาหารที่ทำง่าย สะดวก และเป็นที่นิยมในทุกเพศทุกวัย โดยมีต้นทุนชิ้นละ 15-20 บาท ขายราคา 30-40 บาท ได้กำไรชิ้นละ 15-20 บาท หากขายได้วันละ 50-70 ชิ้น จะมีรายได้ 1,000-1,400 บาทต่อวัน จุดเด่นอยู่ที่การเลือกขนมปังคุณภาพดี นุ่ม สด และการมีไส้หลากหลาย เช่น แฮมชีส ทูน่า ไข่ดาว ไก่อบ หรือหมูแฮม พร้อมผักสด และซอสที่อร่อย ซึ่งจะช่วยสร้างความแตกต่างและดึงดูดลูกค้า เหมาะสำหรับขายในออฟฟิศ โรงเรียน หรือแหล่งชุมชน
23. ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน
ก๋วยเตี๋ยวลุยสวนเป็นอาหารว่างที่ทำง่าย สะดวก และสามารถทำล่วงหน้าได้ โดยมีต้นทุนห่อละ 10-15 บาท ขายราคา 20-30 บาท ได้กำไรห่อละ 10-15 บาท หากขายได้วันละ 70-100 ห่อ จะมีรายได้ 1,000-1,500 บาทต่อวัน จุดเด่นอยู่ที่การทำแป้งให้บาง นุ่ม การใส่ไส้ที่หลากหลาย เช่น หมูสับ กุ้งสับ ไก่สับ หรือเจ พร้อมผักสด และน้ำจิ้มรสเด็ด ซึ่งจะช่วยสร้างความแตกต่างและดึงดูดลูกค้า ก๋วยเตี๋ยวลุยสวนเป็นคำตอบที่น่าสนใจ
24. สลัดผัก
สลัดผักเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน โดยมีต้นทุนกล่องละ 25-35 บาท ขายราคา 50-70 บาท ได้กำไรกล่องละ 25-35 บาท หากขายได้วันละ 30-40 กล่อง จะมีรายได้ 1,000-1,400 บาทต่อวัน จุดเด่นอยู่ที่การเลือกผักสด สะอาด ปลอดสารพิษ การมีท็อปปิงให้เลือกหลากหลาย เช่น อกไก่ ทูน่า ไข่ต้ม ลูกเกด หรือถั่ว และน้ำสลัดสูตรพิเศษที่อร่อย ไม่เหมือนใคร ซึ่งจะช่วยสร้างความแตกต่างและดึงดูดลูกค้า
25. โจ๊ก
โจ๊กเป็นอาหารเช้าที่คนไทยนิยมรับประทาน โดยมีต้นทุนถ้วยละ 20-25 บาท ขายราคา 35-45 บาท ได้กำไรถ้วยละ 15-20 บาท หากขายได้วันละ 50-70 ถ้วย จะมีรายได้ 1,000-1,400 บาทต่อวัน จุดเด่นอยู่ที่การทำโจ๊กให้เนื้อเนียน ข้าวนุ่ม การเลือกเนื้อสัตว์คุณภาพดี สด สะอาด เช่น หมูสับ ตับหมู ไข่เยี่ยวม้า หรือปลา และเครื่องเคียงที่หลากหลาย เช่น ผักชี ต้นหอม ขิง กระเทียมเจียว ไข่ต้มยางมะตูม ซึ่งจะช่วยสร้างความแตกต่างและดึงดูดลูกค้า
26. กล้วยปิ้ง
กล้วยปิ้งเป็นขนมไทยที่ทำง่าย ลงทุนต่ำ และขายได้ตลอดทั้งวัน โดยมีต้นทุนหวีละ 25-35 บาท ขายราคาหวีละ 10-15 บาท หรือลูกละ 5-10 บาท ได้กำไรหวีละ 20-30 บาท หากขายได้วันละ 40-50 หวี จะมีรายได้ 1,000-1,500 บาทต่อวัน จุดเด่นอยู่ที่การเลือกกล้วยที่สุกพอดี หวาน มัน การปิ้งให้สุกกำลังดี หอม น่ารับประทาน และการเพิ่มความพิเศษด้วยท็อปปิง เช่น น้ำผึ้ง น้ำตาลทราย หรือเนยสด ซึ่งจะช่วยสร้างความแตกต่างและดึงดูดลูกค้า
27. ขนมไข่เต่า
ขนมไข่เต่าเป็นขนมไทยโบราณที่กำลังกลับมาได้รับความนิยม โดยมีต้นทุนถาดละ 150-200 บาท ได้ขนมประมาณ 30-40 ชิ้น ขายราคาชิ้นละ 10-15 บาท ได้กำไรประมาณ 150-200 บาทต่อถาด หากขายได้วันละ 5-7 ถาด จะมีรายได้ 1,000-1,400 บาทต่อวัน จุดเด่นอยู่ที่การทำแป้งให้นุ่ม ใส ไส้หวานกำลังดี และการทำให้สุกพอดี ไม่แห้งหรือแฉะเกินไป นอกจากนี้ยังสามารถพัฒนาเป็นไข่เต่าไส้พิเศษ เช่น ไส้ครีม ไส้คัสตาร์ด หรือไส้ช็อกโกแลต เพื่อเพิ่มความหลากหลาย
28. ยำขนมจีน
ยำขนมจีนเป็นอาหารที่ทำง่าย สด สะอาด และมีรสชาติเข้มข้น ถูกปากคนไทย โดยมีต้นทุนจานละ 20-25 บาท ขายราคา 35-45 บาท ได้กำไรจานละ 15-20 บาท หากขายได้วันละ 50-70 จาน จะมีรายได้ 1,000-1,400 บาทต่อวัน จุดเด่นอยู่ที่การทำน้ำยำให้มีรสชาติกลมกล่อม เปรี้ยว เผ็ด เค็ม หวาน ครบรส การใช้ขนมจีนที่สด นุ่ม และเครื่องเคียงที่หลากหลาย เช่น กุ้งสด ปลาทู ไข่ต้ม หมูยอ แคบหมู ซึ่งจะช่วยสร้างความแตกต่างและดึงดูดลูกค้า
29. ข้าวปลาแกะ
ข้าวปลาแกะเป็นอาหารที่กำลังได้รับความนิยม โดยเฉพาะในกลุ่มคนรักสุขภาพ โดยมีต้นทุนกล่องละ 30-40 บาท ขายราคา 60-80 บาท ได้กำไรกล่องละ 30-40 บาท หากขายได้วันละ 25-35 กล่อง จะมีรายได้ 1,000-1,400 บาทต่อวัน จุดเด่นอยู่ที่การเลือกปลาที่สด สะอาด การแกะก้างออกให้หมด ทำให้รับประทานง่าย และการปรุงรสให้กลมกล่อม อร่อย พร้อมเครื่องเคียงที่หลากหลาย เช่น ไข่ต้ม ผักสด สาหร่าย ถั่ว ซึ่งจะช่วยสร้างความแตกต่างและดึงดูดลูกค้า
30. เค้กถ้วย
เค้กถ้วยเป็นขนมที่กำลังได้รับความนิยม โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน โดยมีต้นทุนถ้วยละ 15-20 บาท ขายราคา 35-45 บาท ได้กำไรถ้วยละ 20-25 บาท หากขายได้วันละ 40-50 ถ้วย จะมีรายได้ 1,000-1,250 บาทต่อวัน จุดเด่นอยู่ที่การทำเค้กให้นุ่ม ชุ่ม อร่อย การมีหลากหลายรสชาติ เช่น ช็อกโกแลต วานิลลา กาแฟ เมนต้า ส้ม และการตกแต่งให้สวยงาม น่ารับประทาน ซึ่งจะช่วยสร้างความแตกต่างและดึงดูดลูกค้า
31. นมสดปั่น
นมสดปั่นเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมในทุกเพศทุกวัย โดยมีต้นทุนแก้วละ 15-20 บาท ขายราคา 35-45 บาท ได้กำไรแก้วละ 20-25 บาท หากขายได้วันละ 40-50 แก้ว จะมีรายได้ 1,000-1,250 บาทต่อวัน จุดเด่นอยู่ที่การใช้นมสดคุณภาพดี การมีหลากหลายรสชาติ เช่น ช็อกโกแลต สตรอว์เบอร์รี คาราเมล ชาเขียว กล้วยหอม และการตกแต่งให้สวยงาม น่ารับประทาน เช่น การโรยท็อปปิง การราดซอส หรือการใส่ขนมต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยสร้างความแตกต่างและดึงดูดลูกค้า
32. ไก่ทอดสูตรพิเศษ
ไก่ทอดสูตรพิเศษเป็นอาหารที่ขายง่าย เป็นที่นิยมของทุกเพศทุกวัย โดยมีต้นทุนชิ้นละ 15-20 บาท ขายราคา 25-35 บาท ได้กำไรชิ้นละ 10-15 บาท หากขายได้วันละ 70-100 ชิ้น จะมีรายได้ 1,000-1,500 บาทต่อวัน จุดเด่นอยู่ที่การหมักไก่ให้เนื้อนุ่ม รสชาติเข้าถึงเนื้อ การทอดให้กรอบนอกนุ่มใน และน้ำจิ้มสูตรพิเศษที่อร่อย ไม่เหมือนใคร เช่น ซอสพริกเผา น้ำจิ้มสูตรญี่ปุ่น หรือซอสครีมกระเทียม ซึ่งจะช่วยสร้างความแตกต่างและดึงดูดลูกค้า
33. ขนมจีบ
ขนมจีบเป็นอาหารว่างจีนที่คนไทยชื่นชอบ โดยมีต้นทุนลูกละ 5-7 บาท ขายราคา 10-15 บาท ได้กำไรลูกละ 5-8 บาท หากขายได้วันละ 150-200 ลูก จะมีรายได้ 1,000-1,600 บาทต่อวัน จุดเด่นอยู่ที่การทำไส้ให้อร่อย การนึ่งให้สุกพอดี และการมีขนมจีบหลากหลายประเภท เช่น ขนมจีบหมู ขนมจีบกุ้ง ขนมจีบปู หรือขนมจีบหมูสับผสมเห็ดหอม พร้อมซอสขนมจีบรสเด็ด ซึ่งจะช่วยสร้างความแตกต่างและดึงดูดลูกค้า
34. กุ้งอบวุ้นเส้นกระทะร้อน
กุ้งอบวุ้นเส้นกระทะร้อนเป็นอาหารที่กำลังได้รับความนิยม โดยมีต้นทุนชุดละ 40-50 บาท ขายราคา 80-100 บาท ได้กำไรชุดละ 40-50 บาท หากขายได้วันละ 20-25 ชุด จะมีรายได้ 1,000-1,250 บาทต่อวัน จุดเด่นอยู่ที่การเลือกกุ้งสด ขนาดพอดี การปรุงรสให้เข้มข้น และการเสิร์ฟร้อน ๆ ในกระทะเหล็ก ทำให้มีความน่าสนใจและดึงดูดลูกค้า นอกจากนี้ยังสามารถพัฒนาเป็นเมนูอื่น ๆ เช่น หมูอบวุ้นเส้น ปลาหมึกอบวุ้นเส้น หรือซีฟู้ดรวมอบวุ้นเส้น เพื่อเพิ่มความหลากหลาย
35. หมาล่าเสียบไม้
หมาล่าเสียบไม้เป็นอาหารที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยมีต้นทุนไม้ละ 20-25 บาท ขายราคา 40-50 บาท ได้กำไรไม้ละ 20-25 บาท หากขายได้วันละ 40-50 ไม้ จะมีรายได้ 1,000-1,250 บาทต่อวัน จุดเด่นอยู่ที่การเลือกวัตถุดิบที่หลากหลาย เช่น ลูกชิ้น ไส้กรอก ปลาหมึก เห็ด ผัก เต้าหู้ และน้ำซุปหมาล่าที่เข้มข้น หอม เผ็ด มัน ถูกปากคนไทย ซึ่งจะช่วยสร้างความแตกต่างและดึงดูดลูกค้า
ไอเดียขายอะไรให้ได้วันละ 1000 บาท ที่เรารวบรวมมานี้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับแม่ค้ามือใหม่ มีจุดเด่น จุดขายที่ต่างกัน สามารถเลือกให้เหมาะสมกับความถนัดและทำเลที่มีได้เลย ซึ่งนอกเหนือจากการขายของหารายได้เสริมมาช่วย Support ค่าใช้จ่ายที่สูงในตอนนี้แล้ว การมีบัตรกดเงินสดก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการกดเงินมาใช้ในยามฉุกเฉินเช่นกัน สำหรับผู้ที่สนใจสมัครบัตรกดเงินสดยูเมะพลัส เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในยามฉุกเฉิน สามารถสมัครผ่านทางออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
*อัตราดอกเบี้ย 19.8% - 25% ต่อปี, กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว, ดูเงื่อนไขได้ที่เว็บไซต์ยูเมะพลัส