15 ประเทศน่าเที่ยวที่สุดในโลก

การท่องเที่ยวคือหนึ่งในประสบการณ์ที่ทำให้ชีวิตมีความสุข และการเลือกประเทศที่น่าเที่ยวที่สุดในโลกเพื่อไปสัมผัสวัฒนธรรมและธรรมชาติที่แตกต่างกันนั้นเป็นสิ่งที่หลายคนฝันถึง ประเทศน่าเที่ยวเหล่านี้ล้วนมีเอกลักษณ์และเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งจะมีประเทศน่าเที่ยวที่ไหนบ้างไปดูกัน

เปิดลิสต์ 15 ประเทศที่น่าเที่ยวที่สุดในโลก

ในโลกใบนี้มีประเทศที่น่าเที่ยวที่สุดในโลกมากมาย ที่มีความสวยงามและน่าสำรวจ แต่ละประเทศล้วนมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติ วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ หรือสถาปัตยกรรม

  • ญี่ปุ่น เสน่ห์แห่งวัฒนธรรมดั้งเดิมผสมผสานความทันสมัย
  • สเปน สถาปัตยกรรมอันงดงามและวัฒนธรรมที่หลากหลาย
  • อียิปต์ อารยธรรมโบราณที่น่าประทับใจ
  • สหรัฐอเมริกา ความหลากหลายและความบันเทิงระดับโลก
  • บราซิล วัฒนธรรมสีสันและธรรมชาติที่งดงาม
  • ฝรั่งเศส ศิลปะ อาหาร และโรแมนติก
  • อิตาลี ประวัติศาสตร์ ศิลปะ และอาหารระดับโลก
  • ไทย วัฒนธรรมไทยและการต้อนรับที่อบอุ่น
  • กรีซ ประวัติศาสตร์โบราณและเกาะสวรรค์
  • ตุรกี สะพานเชื่อมวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตก
  • อินเดีย ความหลากหลายทางวัฒนธรรมและจิตวิญญาณ
  • เปรู อารยธรรมอินคาและธรรมชาติที่สวยงาม
  • ออสเตรเลีย ธรรมชาติป่าและสัตว์ที่เป็นเอกลักษณ์
  • ไอซ์แลนด์ ธรรมชาติที่งดงามและปรากฏการณ์ธรรมชาติ
  • นอร์เวย์ แสงเหนือที่สวยงาม

15 ประเทศที่น่าเที่ยวที่สุดในโลก

แต่ละประเทศในรายการประเทศน่าเที่ยวนี้ล้วนเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกปรารถนาจะไปสัมผัส ประเทศที่น่าเที่ยวที่สุดในโลกเหล่านี้มีสิ่งที่น่าสนใจและประสบการณ์ที่หาไม่ได้ที่อื่น

1. ประเทศญี่ปุ่น

สถานที่ที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปญี่ปุ่นคือวัดคินคะคุจิหรือที่รู้จักกันในชื่อ "วัดทอง" เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์อันโดดเด่นของเมืองเกียวโต ด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามของศาลาทองคำที่สะท้อนบนผิวน้ำในสระอย่างสง่างาม ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องมาเยือนเพื่อชมความงามและความเงียบสงบ

  • พิกัด https://maps.app.goo.gl/9FinbpzUKTBqMowP9
  • ค่าเข้าเยี่ยมชม 500 เยน
  • วันและเวลาที่ให้บริการ เปิดทุกวัน ไม่มีวันหยุด ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น.
  • การเดินทาง จากสถานี Kyoto Station ให้นั่งรถบัส Kyoto City Bus สาย 101 หรือ 205 ไปลงที่ป้าย Kinkaku-ji Michi แล้วเดินต่ออีกเล็กน้อย

2. ประเทศสเปน

บาร์เซโลนาไม่ได้มีแค่ทีมฟุตบอลชื่อดังของประเทศสเปน แต่เมืองแห่งนี้ยังเป็นแหล่งรวมสถาปัตยกรรมชื่อดังของศิลปินก้องโลก “อันโตนี เกาดี” ซึ่งมีผลงานชิ้นเอกอย่าง “มหาวิหารซากราดาฟามิลิอา” (Sagrada Familia) ที่ออกแบบด้วยศิลปะแนวอาร์ตนูโวที่สวยงาม จน UNESCO ได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย

  • พิกัด https://maps.app.goo.gl/K2hfzJ27uTXjFYEy8
  • ค่าเข้าเยี่ยมชม เริ่มต้น 25-40 ยูโร
  • วันและเวลาที่ให้บริการ เปิดทุกวัน ไม่มีวันหยุด โดยเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ ในวันจันทร์-วันเสาร์ เปิด 09.00-18.00 น. วันอาทิตย์ 10.30-18.00 น. เดือนมีนาคมและตุลาคม ในวันจันทร์-วันเสาร์ 09.00-19.00 น. วันอาทิตย์ 10.30-19.00 น. และเมษายน-กันยายน ในวันจันทร์-วันเสาร์ 09.00-20.00 น. วันอาทิตย์ 10.30-20.00 น.
  • การเดินทาง รถไฟใต้ดินสาย L2 หรือ L5 มาลงที่สถานี Sagrada Família หรือรถโดยสารประจำทางสาย 19, 33, 34, D50, H10 และ B24 มาลงที่ป้าย Mallorca-Marina

3. ประเทศอียิปต์

มหาพีระมิดแห่งกิซ่าและมหาสฟิงซ์หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณที่ยังคงตั้งตระหง่านอยู่จนถึงปัจจุบัน มหาพีระมิดเป็นสัญลักษณ์ของอารยธรรมอียิปต์โบราณที่ยิ่งใหญ่และเต็มไปด้วยปริศนา การได้มายืนอยู่เบื้องหน้าสถาปัตยกรรมอันน่าทึ่งนี้ถือเป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด

  • พิกัด https://maps.app.goo.gl/dH5cFzZLEse5uPwKA
  • ค่าเข้าเยี่ยมชม 50-80 ปอนด์
  • วันและเวลาที่ให้บริการ ตุลาคม-มีนาคม 08.00-17.00 น.
  • การเดินทาง วิธีที่สะดวกที่สุดคือนั่งแท็กซี่หรือใช้บริการรถยนต์ผ่านแอปพลิเคชัน (เช่น Uber) จากใจกลางกรุงไคโร

4. ประเทศสหรัฐอเมริกา

ลอสแอนเจลิสหรือที่นิยมเรียกกันสั้น ๆ ว่า LA ตั้งอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นนครใหญ่แสนสนุกที่มีสถานที่น่าสนใจมากมาย และหนึ่งในนั้นคืออาณาจักรแห่งความบันเทิงอย่าง ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ ฮอลลีวูด สวนสนุกระดับโลกที่ผสมผสานเครื่องเล่นสุดล้ำเข้ากับโลกแห่งภาพยนตร์ ที่นี่คุณจะได้สัมผัสเบื้องหลังการถ่ายทำจริงในโซน Studio Tour และตื่นตาตื่นใจไปกับโซนเครื่องเล่นอย่าง THE WIZARDING WORLD OF HARRY POTTER และ SUPER NINTENDO WORLD ถือเป็นจุดหมายที่คนรักหนังและสวนสนุกต้องมาเยือน

  • พิกัด https://maps.app.goo.gl/w7jC1Zi2YdBsm1zE6
  • ค่าเข้าเยี่ยมชม เริ่มต้นที่ประมาณ 140 ดอลลาร์สหรัฐ
  • วันและเวลาที่ให้บริการ เปิดให้บริการทุกวัน 09.00-21.00 น.
  • การเดินทาง รถไฟใต้ดินสาย B Line (สายสีแดง) ไปลงที่สถานี Universal/Studio City จากนั้นจะมีรถชัทเทิลบัสของสวนสนุกให้บริการรับ-ส่งฟรีจากสถานีไปยังทางเข้าสวนสนุก

5. ประเทศบราซิล

รูปปั้นพระเยซูคริสต์ (Christ the Redeemer) ที่กางแขนออกประดุจโอบกอดเมืองริโอเดจาเนโร ตั้งอยู่บนยอดเขาคอร์โควาโด เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ จากบนยอดเขาสามารถชมทิวทัศน์อันงดงามของเมือง ทั้งภูเขาชูการ์โลฟและชายหาดโคปาคาบานาได้อย่างทั่วถึง

  • พิกัด https://maps.app.goo.gl/bsAMpERoAQJNUDXZ7
  • ค่าเข้าเยี่ยมชม ราคาตั๋วจะแตกต่างกันไปตามฤดูกาลและวิธีการขึ้นเขา เริ่มต้นประมาณ 62-75 เรียลบราซิล
  • วันและเวลาที่ให้บริการ 08.00-19.00 น. (เวลารถเที่ยวสุดท้ายอาจแตกต่างกันไป)
  • การเดินทาง สามารถขึ้นไปได้โดยการนั่งรถไฟ Corcovado Train จากสถานี Cosme Velho โดยรถไฟจะวิ่งขึ้นเขาประมาณ 20 นาที หรือใช้บริการรถตู้ของอุทยานจากจุดบริการที่ Largo do Machado หรือ Copacabana หรือการขับรถ นั่งแท็กซี่ Uber และการเดินทางไกลด้วยเท้า (hiking) ขึ้นไป

6. ประเทศฝรั่งเศส

หอไอเฟลสัญลักษณ์ที่ไม่ต้องบรรยายใด ๆ ของกรุงปารีสและประเทศฝรั่งเศส ผลงานทางวิศวกรรมที่น่าทึ่งและเป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองหลวงแห่งนี้ ไม่ว่าจะชมความงามจากด้านล่างในสวน Champ de Mars หรือขึ้นไปชมวิวเมืองแบบพาโนรามาจากชั้นบนสุด ก็ล้วนเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำและโรแมนติกมาก ๆ

  • พิกัด https://maps.app.goo.gl/yBwH5J3BBs4fzn2F9
  • ค่าเข้าเยี่ยมชม 35.30 ยูโร (ขึ้นได้ถึงชั้น 3 บนสุด) 
  • วันและเวลาที่ให้บริการ 09.00-00.45 น.
  • การเดินทาง นั่งรถไฟใต้ดินไปลงที่สถานี Bir-Hakeim (สาย 6) หรือ Trocadéro (สาย 9) และนั่งรถบัสสาย 82 และ 30 ลงที่ป้าย Eiffel Tower

7. ประเทศอิตาลี

Colosseum สนามกีฬากลางแจ้งโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้เป็นศูนย์กลางของความบันเทิงในยุคจักรวรรดิโรมัน แม้ปัจจุบันจะเหลือเพียงโครงสร้าง แต่ความยิ่งใหญ่และเรื่องราวในอดีตเกี่ยวกับการต่อสู้ที่ยังคงดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาสัมผัสความอลังการด้วยตาตัวเองเอง

  • พิกัด https://maps.app.goo.gl/to6kraVAzH8WCT9P6
  • ค่าเข้าเยี่ยมชม เริ่มต้นที่ 16-70 ยูโร
  • วันและเวลาที่ให้บริการ 08.30 น. ไปจนถึง 19.00 น.
  • การเดินทาง นั่งรถไฟใต้ดิน สาย B ไปลงที่สถานี Colosseo และรถบัสสาย 75 ตรงไปยังป้าย Colosseo

8. ประเทศไทย

วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) วัดคู่บ้านคู่เมืองของประเทศไทย ตั้งอยู่ในเขตพระบรมมหาราชวัง เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) และเป็นศูนย์รวมของงานศิลปกรรมไทยอันล้ำค่า ทั้งสถาปัตยกรรม จิตรกรรม และประติมากรรมที่แสดงถึงความรุ่งเรืองของกรุงรัตนโกสินทร์

  • พิกัด https://maps.app.goo.gl/JF43NGsiRL2xrLcG7
  • ค่าเข้าเยี่ยมชม นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 500 บาท คนไทยไม่เสียค่าเข้าชม
  • วันและเวลาที่ให้บริการ เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-15.30 น. (โปรดแต่งกายสุภาพ)
  • การเดินทาง สามารถเดินทางได้หลายวิธี เช่น เรือด่วนเจ้าพระยา (ลงท่าช้าง) รถประจำทางหลายสาย หรือรถแท็กซี่ หรือตุ๊กตุ๊ก

9. ประเทศกรีซ

อะโครโพลิสแห่งเอเธนส์ (Acropolis of Athens) เนินเขาศักดิ์สิทธิ์ใจกลางกรุงเอเธนส์ซึ่งเป็นที่ตั้งของวิหารพาร์เธนอนและสถาปัตยกรรมโบราณที่สำคัญอีกหลายแห่ง อะโครโพลิสเป็นสัญลักษณ์ของความรุ่งเรืองแห่งอารยธรรมกรีกโบราณ ทั้งในแง่ของประชาธิปไตย ปรัชญา และศิลปะ การได้เดินขึ้นไปชมวิหารพาร์เธนอนถือเป็นการเยือนจุดกำเนิดของอารยธรรมตะวันตกที่น่ามาชมด้วยตัวเองมาก ๆ

  • พิกัด https://maps.app.goo.gl/r1RoF6SGLrfH7Bjk9
  • ค่าเข้าเยี่ยมชม ผู้ใหญ่ 20 ยูโร เด็ก 10 ยูโร
  • วันและเวลาที่ให้บริการ 08.00-18.00 น.
  • การเดินทาง รถไฟใต้ดินสายสีแดงสาย 2 ผ่านศูนย์กลางการเดินทางของจัตุรัส Syntagma และรถบัสสาย 230 ไปยัง Akropolē แล้วเดินต่อ 8 นาที

10. ประเทศตุรกี

ฮาเกียโซเฟีย (Hagia Sophia) มหาวิหารที่เคยเป็นทั้งโบสถ์คริสต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกและมัสยิดหลวง ปัจจุบันกลับมาทำหน้าที่เป็นมัสยิดอีกครั้ง ฮาเกียโซเฟียโดดเด่นด้วยโดมขนาดมหึมาและสถาปัตยกรรมไบแซนไทน์ที่น่าทึ่ง ภายในผสมผสานศิลปะของทั้งศาสนาคริสต์และอิสลามไว้อย่างมีเอกลักษณ์ เป็นสถานที่ที่ต้องไปเยือนเมื่อมาถึงอิสตันบูล

  • พิกัด https://maps.app.goo.gl/BAfubVUMszGRP3jY8
  • ค่าเข้าเยี่ยมชม 28 ยูโร
  • วันและเวลาที่ให้บริการ เปิดให้บริการทุกวันระหว่างเวลา 09.00-00.00 น.
  • การเดินทาง นั่งรถรางสาย T1 ไปลงที่สถานี Sultanahmet

11. ประเทศอินเดีย

ทัชมาฮาล (Taj Mahal) อนุสรณ์สถานแห่งความรักที่สร้างจากหินอ่อนสีขาวทั้งหลังโดยจักรพรรดิชาห์ชะฮันเพื่อรำลึกถึงพระมเหสีมุมตัซ มาฮาล ความงดงามสมมาตรของสถาปัตยกรรมโมกุลและการประดับประดาด้วยหินสีอันประณีต ทำให้ทัชมาฮาลเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่สวยงามที่สุดในโลก และเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกเดินทางมาชม

  • พิกัด https://maps.app.goo.gl/WthqLdn5WTcr7a3w5
  • ค่าเข้าเยี่ยมชม สำหรับคนไทยราคา 540 รูปี ซื้อเพิ่มอีก 200 รูปี เพื่อขึ้นไปบนสุสาน
  • วันและเวลาที่ให้บริการ เปิดทุกวัน ยกเว้นวันศุกร์ เวลาเปิด-ปิด 06.00-18.30 น.
  • การเดินทาง เมืองอัคราสามารถเดินทางไปได้โดยรถไฟหรือรถยนต์จากเดลี จากในเมืองอัครา สามารถใช้บริการรถสามล้อ (Auto-rickshaw) หรือแท็กซี่ไปยังทัชมาฮาล

12. ประเทศเปรู

มาชูปิกชู (Machu Picchu) นครสาบสูญแห่งอินคาที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาแอนดีสที่ลึกลับและน่าอัศจรรย์ การวางผังเมืองที่สอดรับกับธรรมชาติอย่างชาญฉลาดและโครงสร้างหินที่สร้างขึ้นอย่างแม่นยำโดยปราศจากเครื่องมือทันสมัย ทำให้มาชูปิกชูเป็นหนึ่งในแหล่งโบราณคดีที่สำคัญและงดงามที่สุดในโลก

  • พิกัด https://maps.app.goo.gl/nbjY6NNjyehUGi8S8
  • ค่าเข้าเยี่ยมชม 152 PEN
  • วันและเวลาที่ให้บริการ สำหรับขึ้นรอบเช้า 06.00-12.00 และรอบบ่าย 12.00-17.00 น.
  • การเดินทาง นั่งรถบัสจาก Cusco ไปยัง Ollantaytambo แล้วต่อรถไฟไป Aguas Calientes แล้วต่อรถบัสหรือเดินขึ้นเขา 2 ชั่วโมง

13. ประเทศออสเตรเลีย

โรงอุปรากรซิดนีย์ (Sydney Opera House) สถาปัตยกรรมรูปทรงเปลือกหอยอันเป็นเอกลักษณ์ ตั้งอยู่ ณ ปลายสุดของอ่าวซิดนีย์ กลายเป็นสัญลักษณ์ของทั้งเมืองซิดนีย์และประเทศออสเตรเลีย ที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงโรงแสดงศิลปะระดับโลก แต่ยังเป็นผลงานชิ้นเอกทางสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่ทุกคนต้องมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึก

  • พิกัด https://maps.app.goo.gl/vVpSa2DyKcKnGgxe9
  • ค่าเข้าเยี่ยมชม การเดินชมบริเวณภายนอกจะไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ถ้าทัวร์ชมภายในรอบละประมาณ 1 ชั่วโมง ราคา 43 ดอลลาร์ออสเตรเลีย
  • วันและเวลาที่ให้บริการ 09.00-17.00 น. ทุกวัน
  • การเดินทาง นั่งรถไฟ, รถบัส หรือเรือเฟอร์รีไปลงที่ Circular Quay แล้วเดินต่อไปยังโอเปร่าเฮาส์

14. ประเทศไอซ์แลนด์

บลูลากูน (Blue Lagoon) สปาน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก น้ำในบลูลากูนมีสีฟ้าขุ่นอันเป็นเอกลักษณ์ อุดมไปด้วยแร่ธาตุอย่างซิลิกาและซัลเฟอร์ซึ่งเชื่อว่าดีต่อผิวพรรณ การได้แช่น้ำอุ่นสบายท่ามกลางทิวทัศน์ทุ่งลาวาที่ปกคลุมด้วยมอสส์ เป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครและเป็นสิ่งที่ต้องทำเมื่อมาเยือนไอซ์แลนด์

  • พิกัด https://maps.app.goo.gl/K7babJNkqbRj9efP6
  • ค่าเข้าเยี่ยมชม ขึ้นอยู่กับประเภทของบริการและแพ็คเกจที่เลือก เริ่มต้นที่ประมาณ 8,000-12,000 โครนาไอร์แลนด์
  • วันและเวลาที่ให้บริการ 09.00-21.00 น.
  • การเดินทาง ตั้งอยู่ระหว่างสนามบินนานาชาติเคฟลาวิก (KEF) และเมืองเรคยาวิก สามารถเดินทางได้สะดวกโดยรถยนต์ หรือใช้บริการรถบัสรับ-ส่งที่มีให้บริการจากทั้งสองแห่ง

15. ประเทศนอร์เวย์

ประเทศนอร์เวย์เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ดีที่สุดในโลกสำหรับการชมปรากฏการณ์แสงเหนือ หรือ ออโรรา บอเรลลิส (Aurora Borealis) โดยเฉพาะเมืองทรอมโซ (Tromso) การได้เฝ้ามองแสงสีเขียวบนท้องฟ้ายามค่ำคืนในฤดูหนาว เป็นประสบการณ์มหัศจรรย์ที่ราวกับอยู่ในความฝัน และเป็นเป้าหมายหลักของนักเดินทางจำนวนมากที่มาเยือนนอร์เวย์

  • พิกัด https://maps.app.goo.gl/xRD8ADGYmkkTwFfq8
  • ค่าเข้าเยี่ยมชม ไม่มี
  • วันและเวลาที่ให้บริการ สามารถชมแสงเหนือได้สวยและชัดที่สุด ในช่วงเดือนกันยายน-มีนาคม
  • การเดินทาง มีเครื่องบินไปลงที่สนามบินทรอมโซ จากนั้นอาจจะเช่ารถยนต์หรือไปกับทัวร์

การท่องเที่ยวทำให้เราได้สัมผัสวัฒนธรรม สภาพแวดล้อม และวิถีชีวิตที่แตกต่าง ช่วยลดความเครียดและเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ ประสบการณ์ที่ได้รับจากการเดินทางนั้นเป็นความทรงจำอันล้ำค่า เมื่อตัดสินใจเลือกสถานที่เที่ยวที่ต้องการเดินทางไปได้แล้ว ก็ควรวางแผนเตรียมตัวก่อนออกเดินทาง จองเที่ยวบิน ที่พัก และดำเนินการขอวีซ่า อีกเรื่องที่สำคัญมากที่สุดเช่นกันคือเตรียมเงินสำหรับใช้จ่ายให้เพียงพอในกรณีที่เกิดเหตุจำเป็น บัตรกดเงินสดเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยทางการเงินที่ดี สำหรับใช้จ่ายเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทาง หรือสำรองใช้จ่ายฉุกเฉินหลังการท่องเที่ยว หากสนใจสามารถสมัครบัตรกดเงินสดยูเมะพลัสผ่านทางออนไลน์ได้ที่ https://www.umayplus.com/cashcard/applyform ตลอด 24 ชั่วโมง
บัตรกดเงินสดยูเมะพลัส

*อัตราดอกเบี้ย 19.8% - 25% ต่อปี, กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว, ดูเงื่อนไขได้ที่เว็บไซต์ยูเมะพลัส