เทรนด์การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงอย่างน่าสนใจ โดยสัตว์เลี้ยงกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวหรือเพื่อนคู่ใจ ช่วยเติมเต็มชีวิตและความสุขให้แก่ผู้คน จนกลายเป็นกระแสการเป็นทาสหมาทาสแมวที่แพร่หลายมากขึ้น

จากผลสำรวจของ The 1 Insight และ CRC VoiceShare พบว่าคนไทยส่วนใหญ่ 65% นั้นเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเหมือนเป็นลูกหรือสมาชิกในครอบครัว อีก 33% เลี้ยงเป็นเพื่อนคลายเหงา และ 2% เลี้ยงเพื่อเยียวยาและบำบัดจิตใจ

โดยอันดับสัตว์เลี้ยงยอดนิยมในปี 2567 จัดได้ ดังนี้

อันดับ 1: สุนัข คิดเป็น 63%

อันดับ 2: แมว คิดเป็น 49%

อันดับ 3: สัตว์เลี้ยงประเภท Exotic คิดเป็น 12% (สัตว์เลี้ยงยอดนิยม 3 อันดับแรกได้แก่ ปลา กระต่าย และนก)

ข้อมูลยังระบุอีกว่า การที่สัตว์เลี้ยงกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวและเพื่อนร่วมทางชีวิตนั้น สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของสัตว์เลี้ยงที่มีต่อคุณภาพชีวิตของผู้คน โดยเฉพาะในสังคมเมืองที่มีแนวโน้มการใช้ชีวิตแบบโสดมากขึ้น สัตว์เลี้ยงจึงเข้ามามีบทบาทในการให้ความรักความผูกพัน และช่วยคลายเหงาได้เป็นอย่างดี

ข้อมูลจาก - https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/1117864

 

คนรุ่นใหม่นิยมเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเหมือนคนในครอบครัวกันมากขึ้น

คนรุ่นใหม่โดยเฉพาะกลุ่มคนวัยทำงานหรือแม้แต่วัยเกษียณในยุคสมัยนี้ ต่างก็ให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตและการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข โดยจะมองว่าสัตว์เลี้ยงนั้นเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว เป็นเพื่อนและที่พึ่งทางใจที่สามารถให้ความรักและความเข้าใจได้

ดังนั้นหลายคนจึงพร้อมที่จะใช้เงินเพื่อเลี้ยงดูอย่างดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นค่าอาหารเกรดพรีเมียม การรักษาพยาบาล รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการต่าง ๆ อาทิ ที่พัก ของเล่น สปาสำหรับสัตว์เลี้ยง เพื่อสร้างความสุขให้แก่สัตว์เลี้ยงอย่างเต็มที่

นอกจากนี้ผู้คนที่หันมาเลี้ยงสัตว์เลี้ยงในยุคนี้ยังให้ความสำคัญกับการศึกษาหาความรู้และวิธีในการดูแลสุขภาพ ความงาม รวมถึงการฝึกอบรมสัตว์เลี้ยงให้มีพฤติกรรมที่ดี เนื่องจากมองว่าสัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อนและสมาชิกในครอบครัวที่สำคัญ จึงต้องได้รับการดูแลที่ดีและมีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดอีกด้วย

 

สิ่งจำเป็นที่ Must have ในการดูแลสัตว์เลี้ยงของเรา

การเลี้ยงสัตว์เป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่ในขณะเดียวกันทาสหมาและทาสแมวอย่างเราก็ต้องมีความรับผิดชอบในการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดีเช่นกัน เพื่อให้สัตว์เลี้ยงของเรามีสุขภาพแข็งแรงและมีคุณภาพชีวิตที่ดี ดังนั้น สิ่งจำเป็นที่เราต้องมีสำหรับการดูแลสัตว์เลี้ยง มีดังนี้

1. อาหารและน้ำดื่มที่มีคุณภาพ - อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการเหมาะสมกับสัตว์เลี้ยงแต่ละประเภท เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้สัตว์เลี้ยงมีสุขภาพแข็งแรง นอกจากนี้ ยังต้องมีน้ำดื่มสะอาดให้เพียงพอต่อความต้องการ

2. ที่พักอาศัยที่เหมาะสม - สัตว์เลี้ยงต้องมีที่พักที่สะอาด ปลอดภัย และกว้างขวางเพียงพอต่อการเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ มีอุณหภูมิที่เหมาะสม รวมถึงมีแสงสว่างเพียงพอรวมไปถึงฟูกนอนหรือบางคนอาจมีห้องหรือบ้านสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ

3. อุปกรณ์ทำความสะอาด - เพื่อสุขอนามัยที่ดี ควรมีอุปกรณ์ทำความสะอาดสำหรับสัตว์เลี้ยง เช่น กระบะทรายสำหรับแมว ผ้าอ้อมสำหรับสุนัข ถุงเก็บมูลสัตว์ น้ำยาทำความสะอาดกรง หรือแชมพูสำหรับสัตว์เลี้ยง

4. อุปกรณ์และของเล่น - สัตว์เลี้ยงต้องการอุปกรณ์พื้นฐาน เช่น สายจูง ถาดอาหาร-น้ำ กรง และอุปกรณ์ทำความสะอาด นอกจากนี้ ของเล่นก็เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการและฝึกทักษะการเรียนรู้อีกด้วย

5. การดูแลสุขภาพ - การพาสัตว์เลี้ยงไปรับวัคซีนตามกำหนดเวลา การกำจัดพยาธิ การตรวจสุขภาพประจำปี เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อป้องกันโรค

6. การออกกำลังกายและทำกิจกรรมนอกบ้าน - สัตว์เลี้ยงบางชนิดต้องการการออกกำลังกายเป็นประจำ เช่น การพาสุนัขออกไปเดินเล่น หรือการพาไปสปาเพื่อจัดการให้สัตว์เลี้ยงได้เคลื่อนไหวและใช้พลังงาน เพื่อให้มีสุขภาพแข็งแรง

7. การฝึกอบรม - ในปัจจุบันมีสถานฝึกอบรมสัตว์เลี้ยง เพื่อให้สัตว์เลี้ยงเรียนรู้พฤติกรรมที่ดี เช่น การนั่ง การหมอบ การเข้าห้องน้ำ ช่วยให้สัตว์เลี้ยงควบคุม หรือดูแลตัวเองได้ดีขึ้น

8. การเตรียมพร้อมสำหรับกรณีฉุกเฉิน - ควรเตรียมข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง เช่น ชื่อ สายพันธุ์ เบอร์โทรศัพท์สัตวแพทย์ เผื่อกรณีฉุกเฉิน

9. การวางแผนการเงิน - ควรวางแผนการเงินสำหรับค่าใช้จ่ายในการดูแลสัตว์เลี้ยง เช่น ค่าอาหาร ค่ารักษาพยาบาลเมื่อสัตว์เลี้ยงป่วย และค่าอุปกรณ์ต่าง ๆ

10. ความรักและการดูแลเอาใจใส่ - สิ่งจำเป็นสุดท้ายแต่มีความสำคัญสูงสุด คือ ความรักและการดูแลเอาใจใส่จากเจ้าของ การได้รับความรักความผูกพันจะช่วยให้สัตว์เลี้ยงมีความสุข มีสุขภาพจิตที่ดี

การดูแลสัตว์เลี้ยงให้ได้รับทุกสิ่งที่จำเป็นนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากพร้อมที่จะเอาใจใส่และมีความรับผิดชอบ เราก็จะได้สัตว์เลี้ยงที่น่ารัก มีความสุข และเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด มาเป็นสมาชิกในบ้าน

 

ค่าใช้จ่ายโดยประมาณในการดูแลสัตว์เลี้ยงเบื้องต้น

การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่าย เพื่อที่เหล่าทาสหมาหรือทาสแมวจะได้วางแผนการเงินกันได้อย่างเหมาะสม โดยสามารถแบ่งรายละเอียดค่าใช้จ่ายโดยประมาณดังนี้

อุปกรณ์เบื้องต้น

·         กรงหรือที่นอน: ราคาอาจแตกต่างกันไปตั้งแต่ 200 - 2,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดและคุณภาพ

·         กระบะทราย สายจูง ปลอกคอ ของเล่น และอื่น ๆ: ราคาอาจแตกต่างกันไปตั้งแต่ 200-5,000 บาท

·         อาหารและน้ำ: โดยเฉลี่ยต้องใช้ประมาณ 300 - 1,000 บาทต่อเดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดและปริมาณที่พอเหมาะกับสัตว์เลี้ยง

·         ของเล่น อุปกรณ์สำหรับดูแลขนและผิวหนัง: 500 - 2,000 บาทต่อปี

ค่ารักษาพยาบาล

·         การฉีดวัคซีนประจำปี: 500 - 2,000 บาท

·         ค่าตรวจสุขภาพประจำปี: 700 - 5,000 บาท

·         การรักษาโรคเล็กน้อย: 500 - 3,000 บาทต่อครั้ง

·         ค่าผ่าตัด ในกรณีฉุกเฉิน: 10,000 บาท ขึ้นไป

ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ

·         ค่าอาบน้ำ ตัดขน: 300 - 1,000 บาท/ครั้ง

·         ค่าประกันสัตว์เลี้ยง (แนะนำ): 1,000 - 30,000 บาทต่อปี

·         ค่าที่พักสัตว์เลี้ยง ในกรณีต้องเดินทาง: 300 - 1,000 บาทต่อวัน

·         ค่าบริการอื่น ๆ เช่น ฝึกสัตว์เลี้ยง ทำหมัน

จากข้อมูลด้านบนทำให้เห็นว่าค่าใช้จ่ายในการดูแลสัตว์เลี้ยงอาจสูงถึงหลัก 100,000 บาทต่อปีหรือมากกว่า ดังนั้นการวางแผนการเงินล่วงหน้าจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้มั่นใจว่าเราสามารถให้การดูแลสัตว์เลี้ยงอย่างดีที่สุด

 

การวางแผนทางการเงินที่ดีเพื่อสัตว์เลี้ยงที่เรารัก

เมื่อเรามีสัตว์เลี้ยงที่รักและห่วงใย คนยุคใหม่ทั้งหลายอาจมีความรู้สึกว่าจะยอมจ่ายเท่าไหร่ก็ได้ เพื่อให้พวกเขามีความสุขและได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด อย่างไรก็ตาม การวางแผนทางการเงินยังคงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้เรามีสภาพคล่องทางการเงินที่เพียงพอ และพร้อมรับมือกับค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นกะทันหัน เช่น ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉิน

การวางแผนงบประมาณล่วงหน้าจะช่วยให้เราสามารถจัดสรรเงินได้อย่างเหมาะสม ทั้งค่าใช้จ่ายประจำ เช่น อาหาร ของเล่น และค่าธรรมเนียมต่าง ๆ รวมถึงการสำรองเงินไว้สำหรับค่ารักษาพยาบาลที่อาจเกิดขึ้น การมีกองทุนสำรองย่อมช่วยให้เรามีความสบายใจมากขึ้นเมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ไม่คาดฝันได้เป็นอย่างดี

 

เหล่าทาสหมาและทาสแมวที่ต้องการมีสัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อนคู่ใจ อย่าลืมมองหาตัวช่วยทางการเงินดี ๆ ให้ตัวเองด้วยอย่างเช่น บัตรกดเงินสด เพราะอย่าลืมว่าในช่วงเวลาที่ไม่คาดฝัน เราจำเป็นต้องมีตัวช่วยที่ไว้วางใจได้มารองรับทุกสถานการณ์ให้กับเหล่าสัตว์เลี้ยงของคุณ วางใจด้วยการเลือกบัตรกดเงินสดที่มอบสิทธิประโยชน์และความคุ้มค่าให้กับคุณมากที่สุด เช่น

·         บัตรกดเงินสดยูเมะพลัส ที่สามารถกดเงินสดได้ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0% นาน 30 วัน*

·         สมัครไว้แล้วไม่ได้ใช้ก็ไม่เสียดอกเบี้ย

·         สามารถใช้ชำระค่าสินค้า หรือบริการกับร้านค้าออนไลน์ได้ ผ่านบริการ DREAMwallet บน Umay+ Application 

สำหรับใครที่สนใจสมัครบัตรกดเงินสดยูเมะพลัส สามารถสมัครได้ผ่านทางออนไลน์ที่ > https://www.umayplus.com/cashcard/applyform ตลอด 24 ชั่วโมง

 

*เพียงมียอดเบิกถอนเงินสดภายใน 30 วันหลังจากได้รับการอนุมัติ (เฉพาะยอดเบิกถอนภายในวันแรก สำหรับลูกค้าใหม่) หลังจบรายการส่งเสริมการขายอัตราดอกเบี้ยจะถูกปรับเป็นอัตราดอกเบี้ย 19.8% - 25% ต่อปี, ดูเงื่อนไขได้ที่เว็บไซต์ยูเมะพลัส, กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว