การทำบัญชีรายรับ รายจ่าย เป็นหนึ่งในเครื่องมือบริหารจัดการเงินที่สำคัญ และเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนชีวิต เพราะจะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้  เนื่องจากคุณจะได้ทราบพฤติกรรมการใช้จ่ายของตนเองในแต่ละวัน นำไปสู่การปรับปรุงพฤติกรรมการใช้จ่าย และควบคุมค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งหากพบว่าเราไม่สามารถลดรายจ่ายได้ก็จำเป็นจะต้องหารายได้เพิ่ม เพื่อการมีเงินออมที่มากขึ้นนั่นเอง   

ทำความเข้าใจความหมายของรายรับ รายจ่าย หนี้สิน เงินคงเหลือ  
  • รายรับ คือ เงินที่ได้รับจากการทำงานหรือผลตอบแทนต่างๆ เช่น ค่าจ้างรายวัน เงินเดือน โบนัส รายได้จากการขายสินค้าหรือบริการ ดอกเบี้ยจากธนาคาร เงินคืนภาษี เงินคืนจากประกันชีวิต ฯลฯ
  • รายจ่าย คือ เงินที่จ่ายออกไปเพื่อให้ได้สิ่งตอบแทนกลับมา รวมไปถึงการบริจาคเงินก็ได้ เช่น ค่าอาหาร ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมันรถ ค่าเช่าบ้าน ค่าใช้จ่ายเพื่อการออมและการลงทุน ค่าทำบุญทอดกฐิน ฯลฯ 
  • หนี้สิน คือ ภาระผูกพันที่ต้องชดใช้คืนในอนาคต เช่น เงินกู้ยืมเงินจากกองทุน ค่าผ่อนบ้านกับธนาคาร ค่าผ่อนรถ ค่าผ่อนสินค้า ฯลฯ
  • เงินคงเหลือ คือ เงินหลังจากนำรายรับลบด้วยรายจ่าย แล้วปรากฏรายรับที่มากกว่ารายจ่าย

3 ขั้นตอนง่ายๆ ในการทำบัญชีรายรับ รับจ่าย
สำหรับขั้นตอนการทำบัญชีรายรับ รายจ่ายนั้นไม่ยากอย่างที่คิด โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้


1. ใช้แอปพลิเคชันบันทึกรายรับ รายจ่าย หรือบันทึกใส่ในสมุดบัญชี
ปัจจุบันนี้มีแอปพลิเคชันสำหรับทำบัญชีรายรับ รายจ่ายให้ดาวน์โหลดฟรีมากมาย ซึ่งสะดวกสบาย และง่ายต่อการบันทึก รวมถึงสรุปผลในแต่ละวัน หรือหากใครชอบการจดลงสมุด ก็สามารถหาซื้อสมุดบัญชีสำหรับการบันทึกโดยเฉพาะก็ได้

2. บันทึกรายรับ รายจ่ายตามจริงทุกครั้ง  
การทำบัญชีรายรับ รายจ่ายจะต้องบันทึกข้อมูลตามจริงทุกครั้ง โดยบันทึกรายการต่างๆ ตามลำดับเวลาของเหตุการณ์ที่ได้รับเงินหรือใช้จ่ายเงินออกไป เพื่อป้องกันการสับสน และจะได้ตรวจสอบย้อนหลังได้ง่าย เพราะยอดรายรับ รายจ่ายบางตัวเลขอาจมีความเกี่ยวข้องกันตามลำดับ 

หากใครจดบันทึกในสมุดบัญชี แนะนำให้พกสมุดติดตัวไว้ตลอด หรืออาจจะบันทึกไว้ในโทรศัพท์มือถือก่อนแล้วค่อยจดลงสมุดก่อนนอนในแต่ละคืนก็ได้ เพื่อที่จะได้ทราบว่าในแต่ละวันมีรายรับเท่าไหร่ หรือบันทึกรายจ่ายอะไรไว้ เป็นจำนวนเงินเท่าไหร่บ้าง 

3. สรุปบัญชีในแต่ละวัน
ก่อนเข้านอนในแต่ละวันให้ทำการสรุปบัญชีทั้งยอดรายรับ รายจ่าย เพื่อจะได้ทราบว่าแต่ละวันมีรายรับ หรือรายจ่ายมากกว่ากัน จากนั้นให้นำยอดคงเหลือที่ได้ยกไปในวันถัดไป แล้วบันทึกแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนครบ 1 เดือน ก็จะทำให้ทราบแล้วว่าในเดือนนั้นเรามีเงินคงเหลือ หรือติดลบเท่าไหร่ มีค่าใช้จ่ายอะไรที่จำเป็นหรือฟุ่มเฟือย เพื่อให้เรามองเห็นภาพรวมของรายรับ รายจ่ายในแต่ละเดือนอย่างชัดเจน สู่การวางแผนบริหารจัดการเงินที่ดียิ่งขึ้นในเดือนถัดไป


แนะทริคสู่การมีเงินเก็บที่มากยิ่งขึ้น
  • ลดรายจ่ายผันแปร  รายจ่ายผันแปร คือ รายจ่ายที่ไม่คงที่ในแต่ละเดือน ขึ้นอยู่กับการใช้จ่ายของตัวบุคคล เช่น ค่าดูหนัง ค่า Shopping ค่าอาหาร ค่าสังสรรค์ ฯลฯ เมื่อเราบันทึกรายจ่ายเราจะเห็นอย่างชัดเจนว่ารายจ่ายผันแปรในแต่ละวัน แต่ละเดือนของเรามีอะไรบ้าง ดังนั้น หากเราลดรายจ่ายผันแปรในส่วนนี้ได้ ก็จะช่วยให้เรามีเงินเก็บมากยิ่งขึ้น
  • ชำระเงินให้ตรงเวลา ป้องกันการเกิดดอกเบี้ย หากคุณมีค่าใช้จ่ายคงที่ที่ต้องจ่ายแน่นอนทุกเดือน เช่น ค่าผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้า ค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถ ฯลฯ แนะนำให้จ่ายตรงเวลา เพื่อป้องกันค่าปรับหรือเกิดดอกเบี้ยภายหลัง
  • หาช่องทางเพิ่มรายได้ หากคุณมีรายรับจากการทำงานเพียงอย่างเดียว เราแนะนำให้หารายได้เสริมเผื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน เช่น เจ็บป่วยจนไม่สามารถทำงานได้ ถูกลดเงินเดือน ถูกปลดออกจากตำแหน่ง ฯลฯ นอกจากนี้ ควรศึกษาช่องทางการลงทุนอื่นๆ เช่น หุ้น กองทุนรวม โดยอาจนำเงินออมที่มีไปลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยง ทั้งนี้ ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุน ต้องสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง และตรงตามเป้าหมายในอนาคตของตัวเองด้วย

มีตัวช่วยทางการเงินดี ก็มีเงินใช้ทุกเดือนอย่างอุ่นใจ
บัตรกดเงินสดนับเป็นหนึ่งในตัวช่วยทางการเงินที่จะช่วยให้คุณบริหารจัดการเงินในแต่ละเดือนได้อย่างสะดวกมากขึ้นไม่ว่าจะเกิดเหตุใดก็ตาม โดยเฉพาะการมีเงินสดสำรองติดตัวไว้เพื่อความอุ่นใจ เช่น บัตรกดเงินสดยูเมะพลัส หนึ่งในบัตรกดเงินสดที่สามารถกดเงินสดได้ ด้วยอัตราดอกเบี้ย 0% นานถึง 30 วัน* หรือสมัครไว้แล้วไม่ได้ใช้ก็ไม่เกิดค่าใช้จ่ายใดๆ อีกด้วย สำหรับใครที่สนใจ สมัครบัตรกดเงินสดยูเมะพลัส ก็สามารถสมัครได้ผ่านทางออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง 
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด