การมีสัตว์เลี้ยงนอกจากจะทำให้เจ้าของอย่างเรามีทั้งความสุขแล้วยังเปรียบเสมือนสมาชิกหนึ่งของครอบครัวอีกด้วย แต่เมื่อสมาชิกของเราเจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บขึ้นมา เราจำเป็นต้องเตรียมจำนวนเงินสำหรับค่ารักษาพยาบาลให้พร้อม ที่สำคัญค่ารักษาพยาบาลสำหรับสัตว์เลี้ยงมักมีราคาสูง ดังนั้น ตัวช่วยสำหรับค่ารักษาสัตว์เลี้ยงที่ถือเป็นหนึ่งในวิธีที่ดี คือการมีประกันสัตว์เลี้ยง อย่างประกันสุนัข แมว ถือเป็นการแบ่งเบาภาระในการเสียเงินก้อนจากค่ารักษาพยาบาลสัตว์เลี้ยงได้ ซึ่งแต่ละบริษัทประกันฯ จะมีค่าเบี้ยประกันแตกต่างกันออกไป โดยการเลือกประกันสัตว์เลี้ยงต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง สามารถอ่านได้จากที่นี่เลย

ทำไมถึงควรทำประกันสัตว์เลี้ยง มีความจำเป็นอย่างไรกับเรา

ประกันสุนัข แมว นอกจากจะช่วยเรี่องค่ารักษาพยาบาล ในกรณีเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุแล้ว บางกรมธรรม์ประกันสัตว์เลี้ยง จะออกค่าใช้จ่ายคุ้มครองในกรณีสัตว์เลี้ยงของเราก่อความเดือดร้อนให้ผู้อื่น ค่าฝากเลี้ยง ค่าวัคซีน ค่าประกาศตามหา หรือบางแห่งอาจรวมไปถึงค่าพิธีศพในกรณีสัตว์เลี้ยงของเราเสียชีวิตอีกด้วย 
ประกันสัตว์เลี้ยงจึงถือเป็นการรองรับความเสี่ยงต่อค่าใช้จ่ายในการดูแลสุนัขหรือแมว ที่เรารัก เพื่อเตรียมพร้อมสภาวะคล่องทางการเงินของผู้ดูแลอย่างเราๆ นั่นเอง

ประกันสุนัข แมว มีมากมายเลือกอย่างไรให้เหมาะสมกับน้องที่บ้าน

1. มองเรื่องความเสี่ยงที่สุนัขหรือแมวของเรามักจะพบบ่อย เช่น สัตว์เลี้ยงของเราค่อนข้างป่วยง่าย อาจมองแผนของประกันสัตว์เลี้ยงที่ให้ความคุ้มครองค่าพยาบาลจากการเจ็บป่วยเป็นหลัก หรือหากสัตว์เลี้ยงของเราซุกซน การมองเรื่องคุ้มครองอุบัติเหตุก็จะช่วยให้ได้ความคุ้มค่าที่มากกว่า
2. คำนึงจากค่าเบี้ยของประกันสัตว์เลี้ยงที่เราสามารถจ่ายไหว แน่นอนว่าประกันสุนัข แมวในประเทศไทย มีให้เลือกอย่างหลากหลาย เพราะฉะนั้นผู้ดูแลควรคำนึงถึงสภาพคล่องทางการเงินของตนเองด้วย เพื่อสามารถจ่ายเบี้ยประกันจนจบอายุสัญญาได้

ทำประกันสัตว์เลี้ยงยุคนี้ได้ความคุ้มครองอะไรบ้าง

ทุกวันนี้ถือว่ามีบริษัทประกันหลายแห่งทำประกันสัตว์เลี้ยงออกมาเพื่อเอาใจเหล่าพ่อแม่น้องสุนัขและแมวมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่ความคุ้มครองก็จะมีส่วนที่คล้ายกันคือ
1. ค่ารักษาพยาบาลเมื่อเจ็บป่วย
2. ค่ารักษาพยาบาลเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
3. ค่าคุ้มครองบุคคลภายนอก
4. ค่าฝากเลี้ยง
5. ค่าวัคซีน
6. ค่าพิธีศพ
ซึ่งการคุ้มครองเหล่านี้ขึ้นอยู่กับการเลือกแผนประกันสุนัข แมวของเจ้าของ ว่าต้องการแบบใด ซึ่งการรักษาน้องสุนัขและแมวของเราสามารถไปใช้ในคลินิกหรือโรงพยาบาลแถวบ้านเราได้ เหมือนกับประกันชีวิตของคนเลยทีเดียว

รูปแบบการชำระเบี้ยประกันสัตว์เลี้ยง แบบไหนตอบโจทย์เรามากที่สุด

เมื่อเลือกซื้อประกันสัตว์เลี้ยง การชำระเบี้ยประกันเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญไม่แพ้เรื่องความคุ้มครอง เนื่องจากเราจะต้องจ่ายอยู่เป็นระยะเวลานานและอาจจะมีการชำระเบี้ยเป็นจำนวนเงินที่สูงมาก ดังนั้น การเลือกซื้อประกันสัตว์เลี้ยงที่มีรูปแบบการชำระเบี้ยประกันที่เหมาะสมจะช่วยเราจัดการกับค่าใช้จ่ายได้มากที่สุด โดยทั่วไปแล้ว รูปแบบการชำระเบี้ยประกันสัตว์เลี้ยงจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท โดยจะมีข้อดีแล้วข้อเสียต่างกันไป
การชำระเบี้ยประกันแบบปีละครั้ง (Annual Payment)
เป็นการชำระค่าเบี้ยประกันสัตว์เลี้ยงที่ต้องจ่ายเป็นจำนวนเงินก้อนในครั้งเดียว ซึ่งอาจทำให้ผู้จ่ายต้องจ่ายในจำนวนเงินที่มาก แต่อาจจะได้ราคาเบี้ยประกันที่ถูกกว่าการชำระเบี้ยประกันแบบรายเดือน ดังนั้น จะสามารถประหยัดเงินได้เมื่อเลือกชำระเบี้ยประกันแบบนี้ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือก สำหรับผู้มีเงินก้อน

การชำระเบี้ยประกันแบบรายเดือน (Monthly Payment)

ชำระเบี้ยประกันสัตว์เลี้ยงในรูปแบบรายเดือน โดยจะมีการเรียกเก็บค่าเบี้ยประกันสัตว์เลี้ยงผ่านช่องทางการเงินออนไลน์หรือผ่านการตัดบัญชีอัตโนมัติทุกเดือน ซึ่งทำให้เราไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินก้อน เป็นวิธีการชำระเบี้ยประกันที่สะดวกและง่ายต่อผู้ใช้บริการมากที่สุด แต่อาจจะมียอดเบี้ยประกันที่สูงหรือไม่ได้รับส่วนลดแบบการจ่ายเบี้ยประกันรายปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผู้จ่ายจะสะดวกแบบไหนนั่นเอง
แต่หากคุณยังไม่สะดวกทำประกันสุนัข แมวสมาชิกตัวโปรดของคุณ และดันเกิดเหตุไม่คาดฝัน กับสัตว์เลี้ยงที่รักของเราให้บัตรกดเงินสดยูเมะพลัสดูแลค่าใช้จ่ายของคุณและสัตว์เลี้ยงที่คุณรักได้ สมัครวันนี้ เมื่อได้รับอนุมัติ กดเงินสดดอกเบี้ย 0% นาน 30 วัน* หรือสมัครไว้แล้วไม่ได้กดเงินก็ไม่เสียดอกเบี้ย สำหรับใครที่สนใจ สมัครบัตรกดเงินสดยูเมะพลัส เพียงมีคุณสมบัติ ดังนี้

  • อายุ 20 - 55 ปี (สัญชาติไทย)
  • เป็นพนักงานผู้มีรายได้ประจำ 7,000 บาทขึ้นไป
  • อายุงาน 1 เดือนขึ้นไป 
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด