หวยเกษียณ VS สลากออมทรัพย์ ต่างกันอย่างไร ใครซื้อได้บ้าง

ในยุคที่คนไทยกำลังเผชิญปัญหาการเงินและการปรับโครงสร้างหนี้ การออมเงินไว้ใช้ยามเกษียณจึงเป็นเรื่องสำคัญ รัฐบาลได้ออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่อย่าง "หวยเกษียณ" เพื่อกระตุ้นให้คนไทยมีการเก็บออมเงินในระยะยาว แต่หลายคนอาจสงสัยว่าหวยเกษียณแตกต่างจากสลากออมทรัพย์ที่คุ้นเคยอย่างไร หวยเกษียณ เริ่มเมื่อไหร่ ซื้อได้ที่ไหน เราจะพาไปรู้จักและเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างผลิตภัณฑ์ทั้งสองประเภทนี้กัน

หวยเกษียณ คืออะไร

หวยเกษียณ หรือมีชื่อเต็มว่า "สลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ" เป็นนโยบายที่ออกโดยกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เพื่อแก้ไขปัญหาคนไทยสูงอายุที่ไม่มีเงินเก็บ โดยใช้กลไกการเสี่ยงโชคถูกกฎหมายมาเป็นแรงจูงใจในการออม

หวยเกษียณ ซื้อที่ไหน

หวยเกษียณต้องซื้อผ่านแอปพลิเคชัน กอช. มีลักษณะเป็นสลากชุดในรูปแบบดิจิทัล ไม่ต้องเลือกเลข ราคาใบละ 50 บาท ซึ่งเมื่อซื้อแล้ว เงินต้นจะถูกเก็บเป็นเงินออมในบัญชีส่วนบุคคล และจะได้รับคืนเมื่ออายุครบ 60 ปี พร้อมผลตอบแทนจากการลงทุน แม้ว่าจะถูกรางวัลหรือไม่ก็ตาม

หวยเกษียณแตกต่างกับสลากออมทรัพย์อย่างไร

หวยเกษียณและสลากออมทรัพย์มีความแตกต่างกันในหลายด้าน โดยหวยเกษียณเป็นผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นการออมระยะยาวเพื่อวัยเกษียณ ในขณะที่สลากออมทรัพย์เป็นการออมระยะสั้นถึงปานกลาง หวยเกษียณจะออกในรูปแบบดิจิทัล ไม่มีการเลือกเลข และเงินต้นทั้งหมดจะถูกเก็บเป็นเงินออมที่จะถอนได้เมื่ออายุครบ 60 ปีเท่านั้น ส่วนสลากออมทรัพย์มีอายุระยะสั้นประมาณ 3 ปี สามารถถอนก่อนกำหนดได้แต่จะได้รับดอกเบี้ยน้อยลง มีการจับรางวัลทุกเดือน และมีรางวัลตั้งแต่หลักสิบไปจนถึงหลักล้านบาท โดยที่ดอกเบี้ยและรางวัลที่ได้จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

• วัตถุประสงค์ หวยเกษียณเน้นการออมระยะยาวเพื่อวัยเกษียณ ส่วนสลากออมทรัพย์เป็นการออมระยะสั้นถึงปานกลาง
• รูปแบบ หวยเกษียณเป็นสลากดิจิทัล ไม่ต้องเลือกเลข ส่วนสลากออมทรัพย์เป็นสลากกระดาษที่มีตัวเลข
• ระยะเวลา หวยเกษียณจะถอนได้เมื่ออายุครบ 60 ปี ส่วนสลากออมทรัพย์มีอายุ 3 ปี สามารถถอนก่อนกำหนดได้
• ผลตอบแทน หวยเกษียณได้รับรางวัลทันทีหากถูกรางวัล และเงินต้นจะได้คืนเมื่ออายุครบ 60 ปี ส่วนสลากออมทรัพย์ได้รับดอกเบี้ยและมีโอกาสถูกรางวัลทุกเดือน

ใครซื้อหวยเกษียณได้บ้าง

หวยเกษียณเปิดโอกาสให้คนไทยเข้าถึงการออมเงินเพื่อวัยเกษียณได้อย่างทั่วถึง แต่ในระยะแรกจะมีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายหลักที่สามารถซื้อได้ ดังนี้

• ประชาชนทุกคนที่มีสัญชาติไทย อายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป
• สมาชิกกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เช่น เกษตรกร แม่บ้าน ฟรีแลนซ์ คนขับรถรับจ้าง เป็นต้น
• ผู้ประกันตนมาตรา 40 ทางเลือก 1 (ผู้ประกันตนจ่ายเองเดือนละ 70 บาท)
• แรงงานนอกระบบ
• สำหรับข้าราชการ ผู้ประกันตนมาตรา 33 และ 39 จะไม่สามารถซื้อได้ในระยะแรก

เงื่อนไขในการซื้อหวยเกษียณมีอะไรบ้าง

การซื้อหวยเกษียณมีเงื่อนไขและข้อจำกัดที่ผู้สนใจควรทราบ เพื่อวางแผนการซื้อและการออมเงินได้อย่างเหมาะสมดังนี้

• ซื้อได้ในราคาใบละ 50 บาท ผ่านแอปพลิเคชัน กอช.
• ซื้อได้ทุกวัน แต่มีข้อจำกัดคือซื้อได้ไม่เกิน 3,000 บาทต่อเดือนต่อคน
• ไม่สามารถขายต่อหรือโอนให้ผู้อื่นได้
• ผู้ที่มีอายุเกิน 60 ปี สามารถซื้อได้ แต่ต้องออมไว้ 5 ปีนับจากวันที่ซื้อวันแรก จึงจะสามารถถอนเงินออกมาได้

เงินรางวัลของหวยเกษียณ

หวยเกษียณมีการออกรางวัลเป็นประจำทุกสัปดาห์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแรงจูงใจให้ประชาชนสนใจในการซื้อและเก็บออมเงินระยะยาว โดยรายละเอียดของเงินรางวัลหวยเกษียณมีดังนี้

• ออกรางวัลทุกวันศุกร์ เวลา 17.00 น.
• รางวัลที่ 1 จำนวน 5 รางวัล มูลค่ารางวัลละ 1,000,000 บาท
• รางวัลที่ 2 จำนวน 10,000 รางวัล มูลค่ารางวัลละ 1,000 บาท
• รางวัลพิเศษ (แจ็กพอต) กรณีสมทบจากงวดก่อนหน้า หากในงวดใดรางวัลออกไม่หมด จะถูกทบยอดเป็นรางวัลพิเศษในงวดถัดไปทั้งหมดทันที

เมื่อถูกรางวัลต้องทำอย่างไร

เมื่อซื้อหวยเกษียณแล้วถูกรางวัล ผู้ถูกรางวัลจะได้รับเงินรางวัลทันทีผ่านบัญชีพร้อมเพย์ (PromptPay) โดยไม่ต้องดำเนินการอะไรเพิ่มเติม ส่วนเงินค่าซื้อสลากจะยังคงถูกเก็บสะสมเป็นเงินออมในบัญชีส่วนบุคคลกับกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.)

หากไม่ถูกรางวัล เงินต้นทั้งหมดจะยังคงถูกเก็บสะสมไว้เป็นเงินออมเช่นกัน และเมื่อผู้ซื้ออายุครบ 60 ปี จะได้รับเงินทั้งหมดทุกบาททุกสตางค์ที่ซื้อสลากมาทั้งชีวิต พร้อมผลตอบแทนจากการลงทุน โดยเงินออมจะได้รับการบริหารจัดการโดย กอช. ในอัตราความเสี่ยงที่ต่ำ ในกองทุนรวมตลาดเงิน

หวยเกษียณเป็นการออมรูปแบบใหม่ที่รวมความชอบเสี่ยงโชคของคนไทยมาเป็นแรงจูงใจในการเก็บออม ต่างจากสลากออมทรัพย์ที่เน้นการออมระยะสั้น หวยเกษียณมุ่งเน้นการออมเพื่อใช้ในวัยเกษียณ เหมาะสำหรับผู้ที่ยังไม่มีเงินเก็บและต้องการวางแผนการเงินในระยะยาว แต่ในระหว่างที่เราออมเงินเพื่อการเกษียณอายุอยู่นี้ต้องการใช้เงินฉุกเฉิน บัตรกดเงินสดก็เป็นทางเลือกหนึ่งในการเสริมสภาพคล่องที่น่าสนใจ สำหรับผู้ที่สนใจสมัครบัตรกดเงินสดยูเมะพลัส เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในยามฉุกเฉิน สามารถสมัครผ่านทางออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

*อัตราดอกเบี้ย 19.8% - 25% ต่อปี, กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว, ดูเงื่อนไขได้ที่เว็บไซต์ยูเมะพลัส