แต่ละคนพบเจอปัญหาชีวิตแตกต่างกันออกไป อาจก่อให้เกิดความเครียด วิตกกังวล และเหนื่อยล้า ซึ่งแต่ละคนนั้นย่อมมีวิธีคลายเครียดแตกต่างกันออกไป หนึ่งในนั้นคือการชอปปิงบำบัดความเครียด

ในทางจิตวิทยานั้น การชอปปิงบำบัด (Retail Theraphy) คือ วิธีคลายเครียดรูปแบบหนึ่งผ่านการซื้อของ ขณะที่เรากำลังชอปปิงสมองจะหลั่งสารโดปามีน หรือสารแห่งความสุขออกมา ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นชั่วขณะได้ แต่สิ่งที่ซ่อนอยู่ใต้ความรู้สึกดีระหว่างการซื้อสินค้านั่นก็คือ การรู้สึกว่าตนเองมีอำนาจควบคุมสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น เพราะเราสามารถระบุขนาด สี ไซซ์ จำนวน ราคาที่ต้องการได้ด้วยตนเอง และเมื่อสั่งซื้อสำเร็จจนได้สินค้าชิ้นนั้นมาแล้วยังสัมผัสได้ถึงความสำเร็จที่เกิดขึ้นได้ชั่วคราวอีกด้วย

ข้อควรระวังหากใช้วิธีคลายเครียดด้วยการชอปปิงบำบัด
ถึงแม้ว่าการชอปปิงจะทำให้เราหายเครียดได้ก็ตาม แต่ความรู้สึกดีเหล่านี้ก็เกิดขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น เพราะต้นเหตุของความเครียดทั้งหมดยังไม่ได้รับการแก้ไข หลายครั้งที่เมื่อความรู้สึกมีความสุขตอนสั่งซื้อของจางหายไปแล้ว ความรู้สึกเสียดายก็เข้ามาแทนที่ เพราะเกิดความรู้สึกว่าตนเองไม่น่าเสียเงินไปกับสิ่งของเหล่านั้น

เมื่อไหร่ที่เราเกิดความรู้สึกแย่ในภายหลัง นั่นหมายความว่า เรากำลังแก้ปัญหาอย่างไม่ถูกวิธี การชอปปิงบำบัดนั้นหากไม่ระมัดระวังในการใช้จ่าย อาจทำให้เกิดปัญหาหนี้สิน ขาดสภาพคล่องทางการเงิน จนเกิดความเครียดที่มากขึ้นกว่าเดิมได้ด้วยเช่นกัน

5 สิ่งที่ควรทำก่อนชอปปิง
การใช้จ่ายเกินความจำเป็นคือหนทางนำไปสู่การเป็นหนี้สินได้ ดังนั้น เพื่อให้ทุกคนชอปปิงอย่างมีความสุข เราได้รวบรวม 5 สิ่งที่ควรทำก่อนชอปปิงมาให้แล้ว

1. จดลิสต์รายการสิ่งของที่ต้องการซื้อ
ควรทำรายการสิ่งของที่ต้องการซื้อ อาจจะจดลงกระดาษหรือแอปพลิเคชัน และทำการพิจารณาอย่างรอบคอบว่าสิ่งของเหล่านั้นจำเป็นต่อชีวิตมากแค่ไหน ต้องซื้อจริง ๆ หรือไม่ ซึ่งการจดลิสต์รายการสิ่งของนี้ นอกจากจะทำให้เราพิจารณาถึงความจำเป็นก่อนซื้อได้แล้ว ยังทำให้เราสามารถประเมินค่าใช้จ่ายโดยคร่าวได้อีกด้วย

2. กำหนดงบประมาณให้ชัดเจนและจ่ายด้วยเงินสด
การกำหนดงบประมาณและการใช้เงินสดเป็นการบังคับตัวเองเพื่อไม่ให้ใช้เงินเกินงบ ดังนั้น แนะนำให้กำหนดงบประมาณของตนเองให้แน่ชัด และเตรียมเงินสดให้พอดีสำหรับค่าใช้จ่ายดังกล่าว

3. อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจซื้อ ลองเทียบราคาจากหลาย ๆ แห่งก่อน
การเปรียบเทียบราคาสินค้าและโปรโมชันจากหลาย ๆ แห่งก่อนตัดสินใจซื้อ จะทำให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายได้ อีกทั้งทำให้มีเวลาพิจารณาไตร่ตรองมากขึ้นว่าสิ่งที่เราต้องการ มีความจำเป็นมากน้อยเพียงใด แต่ถ้าผ่านไป 3 วันแล้วยังอยากได้อยู่ ค่อยตัดสินใจกลับมาซื้อใหม่ได้

4. อย่าหลงกลโปรโมชัน
บ่อยครั้งที่เราเสียเงินไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็นเพราะเห็นว่าของสิ่งนั้นกำลังลดราคา จึงอยากให้คิดทบทวนให้ดีก่อนที่จะซื้อ ว่าซื้อไปแล้วจะได้ใช้หรือไม่ ถ้ารีบซื้อไปเลยตอนนี้เดือนหน้าอาจจะมีโปรโมชันที่ลดเยอะกว่า บางคนเมื่อเห็นว่ามีโปรโมชันก็ซื้อของตุนไว้เป็นจำนวนมากจนใช้ไม่ทัน พอของหมดอายุอาจจะทำให้เสียเงินไปโดยสิ้นเปลือง

5. อย่าชอปปิงเพื่อแก้เบื่อ
การชอปปิงเพื่อแก้เบื่อนั้นอาจเกิดจากอารมณ์ฟุ้งซ่านเพียงชั่วขณะ รู้ตัวอีกทีเงินในกระเป๋าก็ละลายหายไปพร้อมกับกล่องพัสดุและสิ่งของจำนวนมาก ดังนั้น แนะนำให้หากิจกรรมอย่างอื่นที่จะสร้างความสุขและกระตุ้นโดปามีน เช่น ออกกำลังกาย อ่านหนังสือ ดูหนัง ทำสวน ทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อน หรือครอบครัว เป็นต้น

ถ้าเรามีวินัยทางการเงิน เลือกซื้อสินค้าที่มีคุณภาพ สามารถใช้งานได้นาน และตอบโจทย์ความต้องการแล้วนั้น เราสามารถทำให้การชอปปิงกลายเป็นวิธีคลายเครียดที่ก่อผลดีกับตัวเองได้

ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องซื้อสิ่งของบางอย่าง และสิ่งของเหล่านั้นมีผลดีต่อชีวิต เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับการเรียนการสอน หรือจำเป็นต้องใช้เงินสดอย่างเร่งด่วน บัตรกดเงินสดยูเมะพลัส เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยด้านการเงินที่พร้อมมอบสิทธิประโยชน์มากมาย ด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ สามารถกดเงินสดดอกเบี้ย 0% นานถึง 30 วัน* หรือหากสมัครไว้แล้วไม่ได้ใช้ก็ไม่เกิดค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น

*เพียงมียอดเบิกถอนเงินสดภายใน 30 วันหลังได้รับการอนุมัติ (เฉพาะยอดเบิกถอนภายในวันแรกเท่านั้น), หลังจบโปรฯ อัตราดอกเบี้ยปรับเป็นปกติ 19.8% หรือไม่เกิน 25% ต่อปี, กรณีผิดนัดชำระจะถูกปรับเป็นอัตราดอกเบี้ยปกติ, ดูเงื่อนไขได้ที่ www.umayplus.com, กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว